สินค้าแบรนด์เนมราคาแพงจัดว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก ไม่ใช่แค่หน้าร้านปิดเท่านั้น แต่ “โอกาส” ที่คนจะซื้อสินค้าแบรนด์เนมไปใส่ยังลดลงอีกด้วย
ที่ผ่านมาแบรนด์เนมหรูต่างพยายามปรับตัวหากลยุทธ์ในการขายแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะความพยายามในการเข้าสู่ตลาดออนไลน์ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าชาวจีนในเมืองเล็กๆ ที่ไม่มีหน้าร้านตั้งอยู่
แต่ความพยายามของแบรนด์เนมหรูต่างๆ คงไม่ได้มีเพียงความพยายามเข้าสู่ตลาดออนไลน์เท่านั้น เพราะความจริงแล้ว สถานการณ์โควิด-19 ทำให้โอกาสที่คนจะได้ใช้สินค้าแบรนด์เนมที่ซื้อมาลดลง จนคนไม่มีเหตุผลที่จะต้องซื้อสินค้าแบรนด์เนมอีกต่อไป
Vicky Bullen CEO ของ Coley Porter Bell บริษัทให้คำปรึกษาด้านการตลาด เล่าว่า การแต่งตัว ตามกระแสแฟชันใหม่ๆ จะเกิดขึ้นได้จากกิจกรรมทางสังคม เช่น การออกไปทำงาน ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ นอกบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าคนอื่นๆ จะเห็นเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ได้ง่ายๆ ถ้าไม่ได้ออกไปนอกบ้าน การซื้อเสื้อผ้า หรือสินค้าแฟชันใหม่ๆ ก็อาจไม่จำเป็น
สุขภาพ และเวลาในครอบครัว กระแสใหม่มาแรง
กระแสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศคือ ความนิยมในการดูแลสุขภาพของตัวเอง โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงล็อคดาวน์สุขภาพ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี กลายเป็ยความฟุ่มเฟือยแบบใหม่ นอกจากนี้ยังมีการสำรวจการใช้จ่ายซื้อของที่มีราคาเกิน 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 62,380 บาท ภายในระยะเวลา 1 ปี พบว่า อุปกรณ์ออกกำลังกาย และคลาสออกกำลังกายที่มีราคาแพง กลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกสถานะทางสังคมใหม่ๆ โดยเฉพาะกับกลุ่มเพื่อน
ส่วนในอีกทางหนึ่ง เวลาแห่งความสุขที่ได้ใช้ร่วมกับครอบครัวกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องแสดงสิ่งของราคาแพงที่ได้มา เพราะ เวลาที่ได้ใช้ร่วมกับคนในครอบครัวอย่างเต็ม รายล้อมไปด้วยคนรัก ที่ไม่เคยมีมาก่อนช่วงล็อคดาวน์
แบรนด์เนมที่อยู่เหนือกาลเวลา กระทบน้อย คนยังอยากได้
แม้ว่าในขณะนี้ร้านค้าแบรนด์เนมหรูหลายแห่งในทวีปเอเชียจะสามารถเปิดให้บริการตามปกติแล้ว แต่วิถีชีวิตแบบ New Normal ทำให้ร้านค้าต่างๆ จำเป็นต้องมีมาตรการคัดกรองผู้ที่จะเข้ามาในร้าน ทั้งการวัดอุณหภูมิร่างกาย การใส่หน้ากากอนามัย สิ่งเหล่านี้กลายเป็นอุปสรรคที่ขัดกับภาพลักษณ์การให้บริการที่หรูหราของร้านแบรนด์เนม ดังนั้นแบรนด์เนมบางแห่ง จึงต้องรู้จักแก้ปัญหา ด้วยการสร้างความสนิทสนม และเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากขึ้น ผ่านการส่งข้อความ และเข้าถึงลูกค้ารายบุคคล
อย่างไรก็ตามไม่ใช่สินค้าแบรนด์เนมทุกชนิดที่จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งหมด เพราะความจริงแล้วสินค้าแบรนด์เนมที่มีลักษณะอยู่เหนือกาลเวลา อาจได้รับผลกระทบน้อยกว่า เช่น Hermès, Prada และ Bottega Veneta
เช่น กระเป๋า Hermes Kelly Bag ที่ตั้งชื่อตาม Grace Kelly นักแสดงฮอลลีวูด ที่ใช้กระเป๋ารุ่นนี้ปิดบังการตั้งท้องแบบอ่อนๆ ของเธอตั้งแต่ปี 1956 ก็มีราคาขายที่แพงขึ้นกว่า 58% ในช่วงเวลา 13 ปี นับตั้งแต่ปี 2000-2013 แม้ในช่วงปี 2008-2009 โลกจะต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำก็ตาม
ของหายาก มีจำนวนจำกัด ยังไปได้ดีในยุคนี้
นอกจากแบรนด์เนมอยู่เหนือกาลเวลาจะไม่ได้รับผลกระทบแล้ว สินค้าแบรนด์เนมที่หาซื้อยาก มีจำนวนจำกัดก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 น้อยเช่นกัน ดูได้จากการจับมือกันระหว่าง Nike และ Dior ที่เปิดตัวรองเท้ากีฬารุ่นพิเศษ Air Jordan 1 OG ร่วมกัน ก็มีผู้ทะเบียนให้ความสนใจซื้อสินค้าไปกว่า 5 ล้านราย เมื่อเดือนที่ผ่านมา ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าบางพฤติกรรมของผู้บริโภคก็ไม่ได้รับผลกระทบ สิ่งของหายาก และมีจำนวนจำกัดยังคงได้รับความนิยมเช่นเดิม
ที่มา – cnbc
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา