ตลอดปี 2020 ที่ผ่านมา หลายคนพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนจนทำให้รู้สึกถอดใจที่จะตั้งเป้าหมายหรือทำ New Year Resolution ต้อนรับปีใหม่กันแบบที่ผ่านๆ มา แต่รู้หรือไม่ว่าในช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรแน่นอนแบบนี้การตั้งเป้าหมายใหม่ๆ ให้กับตัวเองยิ่งมีความสำคัญและยังช่วยเพิ่มความสุขให้กับเราได้ด้วย
แม้ว่าสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นจะทำให้หลายคนยังรู้สึกกังวลถึงความไม่แน่นอนจนไม่อยากคาดหวังถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า แต่การเริ่มต้นปีใหม่คือการได้รีสตาร์ทตัวเอง เปิดรับโอกาส และสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเข้ามา คำแนะนำจากโค้ชด้านการจัดการเวลาชี้ว่า ในช่วงเวลาที่อะไรก็ไม่เป็นดั่งใจ การทำ New Year Resolution หรือตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองจะช่วยเพิ่มความสุข ความกระตือรือร้น และ productivity ให้เราได้
ทำไมการตั้งเป้าหมายให้ตัวเองถึงเพิ่มความสุข
ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะสร้างความรู้สึกหดหู่และหงุดหงิดจากความรู้สึกที่เราไม่สามารถควบคุมเรื่องต่างๆ ในชีวิตได้ การตั้ง New Year Resolution จะช่วยให้สมองรับรู้ว่าเรากำลังควบคุมบางอย่างโดยการกำหนดทิศทางหรือแผนการชีวิตให้กับตัวเอง วิธีการนี้เรียกว่า Self – determination หรือทฤษฎีการกำหนดเอง ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งทางกระบวนการตามจิตวิทยาในการสร้างแรงจูงใจและความหวังในการใช้ชีวิตในภาวะที่สิ่งต่างๆ รอบตัวไม่สามารถควบคุมได้
การสร้างเป้าหมายให้กับตัวเองในช่วงเวลาที่สิ่งต่างๆ ไม่แน่นอนจะช่วยทำให้ สภาพจิตใจและอารมณ์ดีขึ้น มีความกระตือรือร้นและ productive จากแรงจูงใจเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย สมองหลั่งสารสร้างความสุขที่เรียกว่าโดปามีน สร้างความรู้สึกพึงพอใจหลังจากทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จและกระตุ้นความรู้สึกอยากบรรลุเป้าหมายอื่นๆ ต่อไป
4 วิธีตั้ง New Year Resolution เพิ่มความสุขให้ตัวเอง รับปี 2021
ตั้งเป้าหมายเพื่อจัดการเวลาชีวิตตัวเอง
ปี 2020 หลายคนอาจได้รับผลกระทบด้านเวลาจากการที่ตารางเวลาชีวิตหรือกิจวัตรประจำวันเปลี่ยนไปจนทำให้เวลาเข้าทำงานและเวลานอนรวนไปหมด เป้าหมายแรกสำหรับปีหน้าคือการทวงคืนนาฬิกาชีวิตของตัวเองคืนให้สามารถกลับมาควบคุมให้เป็นปกติได้อีกครั้งโดยการล็อคเวลาสำหรับกิจวัตรประจำวันของตัวเองใหม่ ทั้งเวลาเข้านอน เวลาตื่นนอน และเวลาเริ่มทำงานให้เหมือนกันในแต่ละวัน การตั้งเป้าหมายด้านการจัดการเวลาจะช่วยให้สามารถควบคุมเวลาของตัวเองได้ดีขึ้น เพิ่มความกระตือรือร้น วินัย และยังส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย
ตั้งเป้าหมายแบบสนใจกระบวนการ
ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เริ่มต้นที่ระหว่างทาง วิธีการตั้งเป้าหมายแบบสนใจกระบวนการ คือ การให้ความสำคัญกับกระบวนการและขั้นตอนเพื่อไปถึงจุดหมายนั้นและปรับปรุงมัน เช่น พนักงานขาย ยอดขายมาจากลีดที่ได้ในแต่ละสัปดาห์ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่สามารถลองปรับปรุงวิธีการที่ใช้คุยกับลูกค้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบที่ต้องการได้ การตั้งเป้าหมายแบบนี้นอกจากจะเป็นการกำหนดทิศทางไปสู่ผลลัพธ์ได้ด้วยตัวเองแล้วยังช่วยให้ได้ทบทวนวิธีการทำงานในแต่ละขั้นตอนและท้าทายตัวเองให้พัฒนาไปสู่ผลลัพธ์ใหม่ที่ดีกว่า
ตั้งเป้าหมายแบบทำสักที
การตั้งเป้าหมายแบบทำสักที คือ การโฟกัสกับการลงมือทำในสิ่งที่เราพูดว่าเราอยากจะทำ เช่น การหยิบโปรเจคเก่าๆ ที่คิดว่าจะทำและยังอยู่ใน To-do list แต่ก็ไม่ได้ทำสักทีออกมาทำสักที การตั้งเป้าหมายแบบนี้เหมือนการกินยาขมหรือทำเรื่องยากที่เราหลีกเลี่ยงหรือตั้งใจจะแกล้งลืมมันไป ซึ่งถ้าทำสำเร็จจะส่งผลโดยตรงกับอารมณ์และความสุขเพราะโดปามีนจะหลั่งทันทีอย่างแน่นอน
ตั้งเป้าหมายแบบไม่คาดหวัง
เป้าหมายนี้จะเป็นเป้าหมายสูงสุดที่อยากทำในปี 2021 เป็นการตั้งเป้าหมายแบบไม่คาดหวัง ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่เป็นอะไร แต่ตั้งไว้เพราะอยากทำ เช่น ตั้งใจว่าปีหน้าจะไปสเปนเพื่อดูนักฟุตบอลที่ชอบลงแข่งให้กับสโมสรที่อยู่มานานเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งอาจจะทำได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็มองหาสิ่งที่อยากทำและสามารถหาทางทำได้จริง เช่น การเรียนภาษา ฝึกเล่นดนตรี หรืองานอาสาสมัครบางประเภทไปด้วยเพื่อทำให้ตัวเองยังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำตามเป้าหมายอื่นๆ ที่เหลือ
การตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การพยายามทำให้เป้าหมายบรรลุนั้นจะช่วยเพิ่มความรู้สึกที่ดีต่อตัวเองและเพิ่มความมั่นใจว่าเรายังสามารถควบคุมเรื่องบางอย่างในชีวิตของเราได้ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความหวังและสร้างแรงจูงใจแล้วยังทำให้เรามีเวลาคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่เข้ามารบกวนและบั่นทอนกำลังใจน้อยลงอีกด้วย
ที่มา – Fast Company
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา