รัฐบาลจีนงดเผยเป้า GDP ในปีนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่จีนไม่มีเป้าหมาย GDP จากผลกระทบของ COVID-19 ขณะเดียวกันก็เตรียมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และเพิ่มการจ้างงานมากขึ้น
ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้นั้น หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีนได้ยืนยันว่าจีนได้ระงับการกำหนดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP จากสาเหตุหลักๆ คือการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลทำให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ตัวเลขในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนถดถอยมากถึง -6.8%
- จีนก็แย่เหมือนกัน คนตกงานในเมืองเพิ่มขึ้น ปลายปีอาจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- โควิด-19 กระทบเส้นทางสายไหม หลายโครงการชะงัก บางประเทศอาจไม่มีเงินใช้หนี้จีน
- จีนและสหรัฐยืนยัน การเจรจาการค้าของทั้ง 2 ฝ่ายยังเป็นไปได้ด้วยดี แม้ทรัมป์จะขู่ก็ตาม
นายกรัฐมนตรีของจีนได้กล่าวเสริมว่า “COVID-19 ทำให้คาดการณ์หลายๆ สิ่งไม่สามารถที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาด้านต่างๆ รวมไปถึงเศรษฐกิจโลกและด้านการค้า” โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่จีนไม่เปิดเผยเป้าหมายการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี 1990 ก่อนหน้า COVID-19 รัฐบาลจีนได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในประเทศจะเติบโตในช่วง 6-6.5%
เป้าหมายสำคัญของจีนที่กำลังแก้ไขแทนเป้า GDP คืออัตราการว่างงาน โดยรัฐบาลจีนเตรียมจะทำให้เป้าของอัตราว่างงานลดลงมาเหลือ 5.5% ขณะที่ในปี 2019 ที่ผ่านมาจีนมีอัตราว่างงาน 6% นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีของจีนตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนตำแหน่งงานในพื้นที่ท้องถิ่นประมาณ 9 ล้านตำแหน่ง โดยลดลงจากปีที่แล้วที่ทำได้ 11 ล้านตำแหน่ง
ขณะที่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จีนตั้งเป้าลงทุนคือเทคโนโลยี 5G ทางรถไฟ การพัฒนาเรื่องระบบน้ำ รวมไปถึงเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
นายกรัฐมนตรีของจีนยังได้กล่าวว่าจีนเตรียมที่จะออกพันธบัตรของรัฐบาลท้องถิ่นมูลค่า 3.75 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 16.75 ล้านล้านบาท ไว้ใช้ระดมทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ขณะเดียวกันงบประมาณของรัฐบาลจีนคาดว่าปีนี้จะขาดดุลมากกว่า 3.6% ของ GDP มากกว่าในปีที่แล้วที่งบประมาณขาดดุล 2.8%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา