โควิด-19 กระทบเส้นทางสายไหม หลายโครงการชะงัก บางประเทศอาจไม่มีเงินใช้หนี้จีน

ที่ผ่านมาประเทศจีนเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าต้องการขยายอิทธิพลทางการเมืองไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยใช้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อโครงการเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21

โดยให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างเครือข่ายทางรถไฟ ถนน เส้นทางทะเลจากประเทศจีนไปยังทวีปอื่นๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการค้า ด้วยเงินที่จีนให้กู้ยืมหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อก่อสร้างโครงการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในขณะนี้มีประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 130 ประเทศ ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ที่เข้าร่วมโครงการ BRI ของจีน และจะต้องจ่ายเงินที่ใช้ทำโครงการต่างๆ ในประเทศของตัวเองคืนให้รัฐบาลตามที่ได้ตกลงไว้

แผนที่แสดงโครงการ BRI ภาพจาก english.gov.cn

โควิด-19 กระทบหลายประเทศอาจใช้หนี้คืนจีนไม่ได้

แน่นอนว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลต่อโครงการ BRI อยากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้น้อยเริ่มขอให้รัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการใช้หนี้ ทั้งการงดอัตราดอกเบี้ย ยืดระยะเวลาชำระหนี้ หรือยกเว้นการจ่ายหนี้คืนในระยะสั้น โดยประเทศที่น่ากังวลมากที่สุดว่าจะไม่สามารถหาเงินมาจ่ายคืนให้กับรัฐบาลจีนได้ คือปากีสถาน และศรีลังกา

บางประเทศไม่ได้สัญญาว่าจะชำระหนี้คืนด้วยการจ่ายเงินคืนพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ยังมีการใช้หนี้คืนผ่านการค้าเป็นการแลกเปลี่ยน บางประเทศใช้การขายน้ำมันให้จีน แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยิ่งทำให้ราคาน้ำมั่นทั่วโลกตกต่ำ ประเทศที่ใช้หนี้ด้วยการขายน้ำมันให้จีนก็ยิ่งต้องขายน้ำมันให้จีนในปริมาณมากขึ้น เพื่อให้หนี้ในจำนวนเท่าเดิม

หลายคนอาจตั้งคำถามว่า หากใช้หนี้ให้รัฐบาลจีนไม่ได้จะทำอย่างไร? ศรีลังกาเป็นประเทศที่สามารถตอบคำถามนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะ ก่อนหน้านี้ศรีลังกาเคยใช้เงินจากโครงการ BRI เพื่อก่อสร้างท่าเรือขนาดใหญ่ในประเทศ แต่ไม่มีเงินเพื่อใช้หนี้ สุดท้ายแล้วศรีลังกาจึงต้องยอมยกท่าเรือที่สร้างขึ้นให้ฝ่ายจีนเป็นผู้บริหารจัดการ เพื่อชดเชยที่ไม่สามารถใช้หนี้ได้

ภาพจาก english.gov.cn

จีนโดนกดดันให้ผ่อนปรนการใช้หนี้

แม้ว่าที่ผ่านมาจีนจะเคยให้หลายๆ ประเทศที่ไม่สามารถใช้หนี้คืนได้มอบทรัพย์สินให้จีนเป็นผู้บริการจัดการแทน แต่ดูเหมือนว่าในสถานการณ์นี้ผู้เชี่ยวชาญจาก Economist Intelligence Unit (EIU) เชื่อว่าจีนมีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนการชำระหนี้ชั่วคราว หรือแม้แต่การยกหนี้ให้

โดยการยกหนี้ที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการอ้างอิงตามสัญญาของโครงการที่แต่ละประเทศได้ตกลงกันไว้ ที่ระบุไว้ว่าสามารถยกเลิกสัญญาได้หากเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติตามธรรมชาติที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งในกรณีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจเข้าเงื่อนไข ที่ทำให้ประเทศต่างๆ สามารถทำผิดสัญญากับประเทศจีนได้ โดยไม่ถูกปรับแต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์จากผู้เชี่วชาญคนอื่นๆ ว่า จีนอาจผ่อนปรนการใช้หนี้ หรือยกหนี้บางส่วนให้กับประเทศที่มีโครงการ BRI ที่มีความสำคัญกับประเทศจีน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ธนาคารในประเทศจีนได้เตรียมการเพื่อรับมือกับหนี้เสียที่จะเกิดขึ้นแล้ว รวมถึงธนาคารกลางประเทศจีน ยอมรับอัตราหนี้เสียที่สูงขึ้นเพื่อช่วยเหลือบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ที่มา – cnbc

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา