คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2562 ตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการไปในตอนแรก
อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยว่า เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจในปี 2562 มีการเจริญเติบโตและขยายผลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประชาชน เกษตรกรรายย่อย ผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2562 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
- รมว. คลัง เตรียมส่ง 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ยอมรับสู้ภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ง่าย
- สวนดุสิตโพลเผย ประชาชนลดค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ไม่สามารถประหยัดค่าเดินทางได้
- GDP ไทยไตรมาส 3 โต 2.4% สศช. มองเศรษฐกิจไทยปีนี้โตเหลือแค่ 2.6% เท่านั้น
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีมีรายละเอียดดังนี้
- โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่
-
- โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับหมู่บ้าน โดยจัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับ A B และ C จำนวน 71,742 แห่ง แห่งละไม่เกิน 200,000 บาท ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติภายใต้วงเงินรวม 14,348.4 ล้านบาท เพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กในชุมชน เช่น ยุ้งฉางชุมชน โรงตากพืชผลทางการเกษตร ฯลฯ หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้น
- โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สถาบันการเงินประชาชน สถาบันการเงินชุมชน สหกรณ์การเกษตร ฯลฯ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามปกติของ ธ.ก.ส. ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
- โครงการพักชำระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามความสมัครใจ โดยกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองพักชำระหนี้หรือลดภาระหนี้เงินกู้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้กับสมาชิกที่มีความเดือดร้อนและได้ผ่อนคลายภาระการชำระหนี้ที่มีอยู่ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนและหนี้นอกระบบ
-
- มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ปีการผลิต 2562/63 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร โดยการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวข้าวและปรับปรุงคุณภาพข้าว สำหรับเกษตรกรที่ลงทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 จะได้รับคือ
-
- ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวเฉพาะเกษตรกรรายย่อยอัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท
- รัฐบาลได้ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินให้เกษตรกรจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2563 เนื่องจากมีเกษตรกรที่ลงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
-
- มาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” เพื่อเป็นการลดภาระและสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
กระทรวงการคลังยังได้คาดว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2562 จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศทำให้เศรษฐกิจในไตรมาส 4 เติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตัวเลขรายได้ของเกษตรกรในช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะจากปัจจัยภัยแล้ง และมาตรการดังกล่าวที่ว่ามานั้นจะช่วยสร้างแรงส่ง (Momentum) ให้เศรษฐกิจในปี 2563 ขยายตัวอย่างมีศักยภาพ
ขณะเดียวกันมุมมองจากบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส มองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะเป็นผลบวกต่อการบริโภค ซึ่งได้แก่หุ้นกลุ่มค้าปลีก ขณะที่มาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย จะส่งผลบวกต่อกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง
ที่มา – กระทรวงการคลัง ผ่านเว็บไซต์รัฐบาลไทย
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา