อดีตรองประธาน HR Microsoft ตอบ: ทำไมบริษัทเลือกจะปลดพนักงานแทนที่จะลดเงินเดือนผู้บริหารที่สูงลิบลิ่ว?

ในช่วงที่ผ่านมา หลายบริษัทโดยเฉพาะฝั่งเทคโนโลยีปลดพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย ขณะที่ก็มีรายงานตัวเลขเงินเดือนระดับผู้บริหารที่สูงลิบลิ่ว อดีตรองประธานฝ่ายบุคคลของ Microsoft อธิบายคำตอบไว้ว่าทำไมผู้บริหารไม่ยอมลดเงินเดือนตัวเองแทนที่จะปลดพนักงานออก

เรื่องของตัวเลข

Chris Williams รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Microsoft อธิบายเหตุผลแรกไว้ว่า ผู้บริหารมักใช้เหตุผลเรื่องตัวเลขมาสนับสนุน โดยมองว่าการลดเงินเดือนของระดับผู้บริหารลงไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ

อย่างเช่น Google และ Microsoft ที่เป็น 2 บริษัทที่มีตัวเลขหลายอย่างคล้ายกัน ทั้ง 2 บริษัทมีพนักงานราว 20,000 คนเท่า ๆ กัน ทั้งคู่ปลดพนักงานราว 10,000 คนในช่วงปีที่ผ่านมา รวมทั้งซีอีโอของทั้ง 2 บริษัทยังได้รับเงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 71.3 ล้านบาทต่อปี

สำหรับบริษัทรายใหญ่แบบนี้ การปลดพนักงานออก 10,000 คนช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย 1,000 ล้านเหรียญ แต่การตัดเงินเดือนซีอีโอจะประหยัดเงินแค่ 0.2% ของจำนวนนั้น ทำให้ผู้บริหารมองว่าถึงลดเงินเดือนตัวเองไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เรื่องของหุ้น

Chris Williams บอกว่า หลายคนอาจจะเห็นในหน้าข่าวว่าอย่าง Sundar Pichai ซีอีโอของ Google ยังทำเงินได้กว่า 200 ล้านเหรียญหรือราว 7.1 พันล้านบาทต่อปี รวมทั้ง Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ยังได้เงินเกือบ 50 ล้านเหรียญหรือ 1.8 พันล้านบาท แต่ที่จริงแล้ว ผู้บริหารเหล่านี้ไม่ได้รับเป็นเงินทั้งหมด แต่เป็นการมอบหุ้นให้แบบมีเงื่อนไขระยะเวลา (Stock Grants) หมายความว่าถ้าราคาหุ้นของบริษัทลดลง รายได้ก็ลดลงด้วย

Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft

อย่างกรณีของ Sundar Pichai ที่ครอบครองหุ้นเป็นระยะเวลามากกว่า 3 ปี เมื่อปีที่แล้วหุ้นของ Google ขึ้นราว 50% ทำให้รายได้ของซีอีโอก็มากขึ้นตามไปด้วย

การให้ส่วนแบ่งหุ้นแบบนี้เป็นเรื่องปกติของรายได้ผู้บริหารเพราะบริษัทจะไม่ต้องเสียงบประมาและช่วยประหยัดต้นทุนไปได้ นอกจากนี้ หากซีอีโอไม่แก้ปัญหาเรื่องต้นทุนของบริษัท รายได้ของซีอีโอก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ถ้าซีอีโอสามารถเพิ่มมูลค่าของบริษัทและราคาหุ้นได้ ก็ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย หรืออย่างน้อยก็ดีต่อผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร พนักงานอีกจำนวนมาก และนักลงทุน

ดังนั้น ส่วนแบ่งหุ้นไม่ได้กระทบต่อกำไรในปัจจุบัน การตัดส่วนนี้ออกก็ไม่ได้ช่วยประหยัดต้นทุนของบริษัท

เรื่องของการแข่งขัน

การแข่งขันในที่นี้หมายถึงการแข่งขันอย่างเข้มข้นที่จะหาผู้มีความสามารถขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งผู้บริหาร

มีคนน้อยมากที่ได้ทำงานในตำแหน่งสูงที่ได้เป็นผู้นำในบริษัทที่มีมูลค่าเกือบเป็นหลักล้านล้านเหรียญที่มีพนักงานหลายแสนคนและดำเนินธุรกิจในระดับโลก ทำให้ผู้บริหารของบริษัทต่าง ๆ ก็จับตามองและแข่งขันกันเอง เป็นสาเหตุให้ฐานเงินเดือนของกลุ่มบริษัท Fortune 500 หรือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก 500 แห่ง อยู่ระดับใกล้เคียงกันมาก

เมื่อมองหาวิธีประหยัดต้นทุนของบริษัท สิ่งสุดท้ายที่คณะกรรมการบริหารต้องการจะทำก็คือการทำให้ผู้บริหารที่มีความสามารถมองหางานในบริษัทอื่นซึ่งจะเกิดขึ้นถ้ามีการลดเงินเดือนผู้บริหารลง คณะกรรมการบริษัทจึงไม่ต้องการเสี่ยงที่จะสูญเสียคนมีความสามารถที่มีอยู่น้อยคนไป

Chris Williams สรุปส่งท้ายว่าด้วยเหตุผลที่พูดมาทั้งหมดนี้ จริง ๆ แล้วมีเรื่องของภาพลักษณ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 

มีผู้บริหารที่ให้คำสัญญาว่าจะดำเนินธุรกิจบริษัทให้ดีขึ้น อย่าง Sundar Pichai ก็สัญญาไว้เมื่อปีก่อนว่าจะลดเงินเดือนตัวเองลงแต่ในปีที่แล้วก็ยังทำรายได้กว่า 200 ล้านเหรียญ ขณะที่ Tim Cook ก็ออกมาเรียกร้องให้บริษัทตัดส่วนแบ่งหุ้นของเขาลงครึ่งหนึ่ง เหลือแค่ 40 ล้านเหรียญ แต่ฐานรายได้ของเขาก็ยังอยู่ที่ 3 ล้านเหรียญหรือราว 107 ล้านบาทต่อปีและยังได้โบนัส 6 ล้านเหรียญหรือราว 214 ล้านบาทอยู่ดี

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้บริหารส่วนใหญ่ก็ใช้ข้ออ้างทั้งเรื่องตัวเลข หุ้น และการแข่งขันมาอธิบายต่อตัวเอง คณะกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้น จากนั้นก็เลือกที่จะปลดพนักงานออก จากนั้นก็ออกประกาศอธิบายความลำบากใจของบริษัทและพูดถึงพยายามที่จะทำให้ธุรกิจดีขึ้นในอนาคต

ที่มา – Business Insider

อ่านเพิ่มเติมเรื่อง Work-Life

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา