หนึ่งในผลกระทบของ Trade War ? นักศึกษาจีนยุคนี้ไม่เลือกเรียนต่อในสหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่ไปหาที่เรียนในประเทศอื่นแทน
เทรนด์ใหม่นักศึกษาจีนยุคนี้ ไม่เรียนต่อในสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลจาก Easy Transfer สตาร์ทอัพสายฟินเทคจีนยอดฮิตสำหรับนักศึกษาจีนที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ เปิดเผยว่า นักศึกษาจีนยุคนี้ไม่เลือกไปเรียนต่อในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยหนึ่งในเหตุผลหลักคือ “สงครามการค้า” ระหว่างสองประเทศที่รุนแรงและยืดเยื้อไปทุกวันไม่จบสิ้น
ตัวเลขจากสตาร์ทอัพรายนี้ ยืนยันชัดเจนว่า ในปี 2015 ปริมาณการแลกเปลี่ยนเงินของนักศึกษาจีนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 95% บนแพลตฟอร์ม แต่ในปี 2019 พบว่าปริมาณการแลกเปลี่ยนเงินของนักศึกษาจีนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 50% เท่านั้นบนแพลตฟอร์ม
- พูดง่ายๆ คือ ดูจากตัวเลขของสตาร์ทอัพรายนี้ เรียกได้ว่าในแง่ปริมาณการแลกเปลี่ยนเงินจากจีนไปสหรัฐอเมริกานั้น หายไปถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
Tony Gao ซีอีโอของ Easy Transfer บอกว่า “ตอนนี้มีเทรนด์ใหม่ของนักศึกษาจีน คือจะเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่ไม่ได้อยู่ในสหรัฐอเมริกา” และเมื่อดูข้อมูลการแลกเปลี่ยนเงินส่วนใหญ่ของนักศึกษาจีนยุคนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าสนใจไปที่สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย
ข้อมูลเสริมที่น่าสนใจมาจาก EIC Education บริษัทที่ปรึกษาด้านการศึกษาของจีน เปิดเผยในรายงานการศึกษาต่อของนักศึกษาจีนในปี 2019 พบว่า ประเทศที่นักศึกษาจีนสนใจไปเรียนต่อคือสหราชอาณาจักร คิดเป็น 20.14% ในขณะที่อยากไปเรียนต่อในสหรัฐอเมริการองลงมาคือ 17.05% เท่านั้น นอกจากนั้นมีประเทศอื่นๆ ที่ติดอยู่ในอันดับยอดนิยม โดยเฉพาะประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลัก เช่น แคนาดา และออสเตรเลีย ส่วนประเทศที่นักศึกษาจีนสนใจในยุโรปได้แก่ เยอรมนี และฝรั่งเศส ส่วนในเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่ฝ่ายของนักศึกษาจีนเท่านั้นที่เลือกว่าจะเรียนหรือไม่เรียนในสหรัฐอเมริกา เพราะเหตุการณ์สงครามการค้าที่เกิดขึ้น ทำให้นักศึกษาจีนจำนวนไม่น้อยที่วิตกกังวลว่า หากสมัครไปเรียนในสหรัฐอเมริกาอาจไม่ผ่านเกณฑ์วีซ่าเข้าประเทศก็เป็นได้
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ที่มา – South China Morning Post
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา