จะอยู่ Silicon Valley ทำไม? ถ้ากลับจีนไปแล้วรวยกว่า

“ทำงานใน Silicon Valley ก็เป็นแค่ฟันเฟืองในระบบ ไม่มีวันได้เห็นภาพใหญ่ สู้กลับมาจีน แล้วทำธุรกิจเอง ต่อให้ต้องตายเพราะมลพิษ หรือมีชีวิตสั้นลงอีกสัก 10 ปี ก็ยังดีกว่า” 

Photo: Shutterstock

American Dream สำหรับคนไอทีจีนจบลงแล้ว

ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว เทรนด์คนไอทีจีนย้ายกลับประเทศบ้านเกิดหลังเรียนจบ มากกว่าที่จะทำงานใน Silicon Valley แหล่งเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกที่ตั้งอยู่ในอเมริกา และนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา คนจีนที่เรียนจบในอเมริกาทยอยกลับบ้านสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • ปี 2014 คนไอทีจีนกลับบ้านเกิดประมาณ 365,000 คน
  • ปี 2015 คนไอทีจีนกลับบ้านเกิดประมาณ 410,000 คน
  • ปี 2016 คนไอทีจีนกลับบ้านเกิดประมาณ 423,000 คน
  • ปี 2017 คนไอทีจีนกลับบ้านเกิดประมาณ 432,500 คน
  • และถ้าเทียบตัวเลขทั้งหมดกับปี 2012 เป็นต้นมา อัตราการกลับบ้านเกิดของคนไอทีจีนสูงขึ้นถึง 58%

นอกจากนั้น CB Insights บริษัทด้านการลงทุน เคยเปิดเผยตัวเลขไว้ว่า 1 ใน 3 ของยูนิคอร์นสตาร์ทอัพในโลกขณะนี้อยู่ที่ “จีน” โดยใน 2017 ที่ผ่านมา มีสตาร์ทอัพยูนิคอร์นเกิดขึ้นทั่วโลก 33 บริษัท และเป็นสตาร์ทอัพยูนิคอร์นของจีนไปแล้วถึง 12 บริษัท

ในเมื่อ American Dream ไม่ใช่ฝันที่พวกเขาตามหาอีกต่อไป คนไอทีจีนที่เป็นแรงงานทักษะสูงจำนวนมากต่างหวนหลับบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นธุรกิจไอที เพราะแรงเหวี่ยงของโลกได้เปลี่ยนไปแล้ว บริษัทไอทียักษ์ใหญ่และรัฐบาลจีนต่างพร้อมสนับสนุนเต็มที่ และยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า ค่าครองชีพในซานฟรานซิสโกนั้นแพงลิบลิ่วขนาดไหน การเดินทางกลับจีนจึงเป็นโอกาสอันดีในการเริ่มต้นทำธุรกิจ ที่สำคัญ ecosystem พร้อมกว่ายุคก่อนหน้าเป็นอย่างมาก

Photo: Shutterstock

จาก ซานฟราน ถึง เซี่ยงไฮ้

Wang Yi อดีต Product Manager ของ Google ชายหนุ่มวัย 37 ปีผู้ละทิ้งงานจากบริษัทยักษ์ใหญ่ไอทีตะวันตก และหวนคืนบ้านเกิด เพื่อเริ่มต้นธุรกิจสตาร์ทอัพสอนภาษาอังกฤษเป็นของตัวเอง

“วันหนึ่งในปี 2011 เราเพิ่งรู้ว่าเธอท้อง ตอนนั้นมันไม่ง่ายเลย” Wang เพิ่งทราบว่าภรรยาตั้งครรภ์พร้อมๆ กับที่คิดว่าจะย้ายกลับประเทศบ้านเกิดดีหรือไม่ แต่ด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายเต็มทนกับการทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ ผสมกับความรู้สึกอันแรงกล้าของ Wang ที่ต้องการกลับไปบ้านเกิดเพื่อทำสตาร์ทอัพและมีบริษัทเป็นของตัวเอง สุดท้ายเธอและเขาก็ยอมโบกมือลาอากาศอุ่นๆ ของซานฟรานฯ ไปสู่หมอกและควันในเซี่ยงไฮ้

Wang กลับมาประเทศจีน เขาเริ่มต้นลงมือทำสตาร์ทอัพอย่างที่ตั้งใจไว้ แอพพลิเคชั่นสอนภาษาอังกฤษให้กับคนจีน Liulishuo หรือ LingoChamp ปรากฏว่ารุ่งมาก ล่าสุด เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เขาระดมทุนได้เพิ่มอีก 100 ล้านดอลลาร์ ทำให้ขึ้นแท่นเขาเป็นศิษย์เก่าของ Silicon Valley เบอร์ต้นๆ ที่ได้รับการกล่าวขาน ว่าเดินออกมาและประสบความสำเร็จ

คีย์ความสำเร็จคือ ecosystem ที่พร้อม และสภาพแวดล้อมที่ต่าง

หนึ่งในอุปสรรคของวิศวกรไอทีที่ทำงานในบริษัทไอทีฝั่งตะวันตกคือ “ข้อมูล” และต้องเข้าใจว่าข้อมูลเป็นเรื่องส่วนตัว แต่การพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวไกล รุดหน้าอย่างรวดเร็ว จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้ข้อมูลมหาศาล

การกลับมาตั้งต้นธุรกิจสายไอทีในจีนจึงมีข้อดีหลายประการ ตั้งแต่จำนวนประชากรที่สูงมากถึงหลัก 1.3 พันล้าน ในจำนวนนี้กว่า 751 ล้านคนใช้อินเทอร์เน็ตแบบบ้าคลั่ง เป็นฐานข้อมูลชั้นดี เพราะรัฐบาลจีนมีนโยบายการในการสอดส่องประชาชนเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แม้จะขัดกับหลักการประชาธิปไตย (เคารพสิทธิส่วนบุคคล) แต่นี่คือ Chinese Style และวิศวกรไอทีส่วนใหญ่ที่กลับไปทำธุรกิจในบ้านเกิดมองว่า นี่คือสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากการทำงานในฝั่งตะวันตก

ที่สำคัญและเป็นไฮท์ไลท์คือ คำให้สัมภาษณ์ของวิศวกรจีนที่อ้างคำพูดของเพื่อนเขาเอง โดยบอกไว้ว่า ทำงานใน Silicon Valley ก็เป็นได้แค่ฟันเฟืองในระบบ ไม่มีวันได้เห็นภาพใหญ่หรอก สู้กลับมาจีน แล้วทำธุรกิจเอง

ต่อให้ต้องตายเพราะมลพิษ หรือมีชีวิตสั้นลงอีกสัก 10 ปี ก็ยังดีกว่า

Photo: Shutterstock

อ้างอิงข้อมูล – Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา