แบกไม่ไหว! สวนน้ำแสนสนุกปิดกิจการ โควิดพ่นพิษ 3 ปี เสียหายหลายล้านบาท

สวนน้ำแสนสนุกไม่สนุกแล้ว ประกาศปิดกิจการที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2559

San Sanook

สวนน้ำแสนสนุกตั้งอยู่ที่ อบต. เทพารักษ์ ซอยพัฒนาสุข ตำบลเทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ เปิดกิจการมาเพราะหวังจะจะเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ รับประสบการณ์ใหม่ๆ มีพื้นที่เล่นสนุกที่ค่อนข้างหาได้ยากในปัจจุบัน ล่าสุด ประกาศผ่านเพจ Facebook สวนน้ำ “แสนสนุก” SansaNook” ว่าเตรียมปิดกิจการแล้ว เปิดให้เล่นได้ถึง 16 พฤษภาคมนี้ หรือเหลือเวลาเพียงอีก 6 วันเท่านั้น เปิดให้เข้าเล่นด้วยบัตรราคา 99 บาท ราคาเดียว เปิดให้บริการเวลา 10.00-19.00 น. ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมทั้งขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยการให้บริการอีก 6 วันที่เหลือนี้

  • เล่นได้ทุกอย่างไม่จำกัดชั่วโมง
  • ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดว่ายน้ำ ใส่กางเกงเจเจเสื้อยืดได้
  • นำอาหารเข้าไปได้

Brand Inside ได้รับโอกาสสัมภาษณ์เจ้าของสวนน้ำ “แสนสนุก” บุษบา อมรกุลวัฒนะ หรือพี่บุษ พี่บุษเล่าว่าสวนน้ำเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2559 ช่วงที่เปิดกิจการ ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี ก่อนโควิดระบาดมีคนมาท่องเที่ยวเยอะมากโดยเฉพาะช่วงเทศกาล วันหยุดนักขัตฤกษ์และวันเสาร์-อาทิตย์ หลังจากเจอโควิดระบาดก็ได้รับผลกระทบอย่างหนักแบบเดียวกับที่ร้านเหล้าประสบพบเจอ

พี่บุษเล่าว่า สาเหตุที่ปิดกิจการ หลังแบกธุรกิจมาอย่างยาวนานถึง 3 ปี สวนน้ำก็มีเหตุผลในการปิดกิจการเช่นเดียวกับที่อื่นที่ต้องปิดตัวลง เนื่องจาก เปิดให้บริการแล้วคนก็กลัวที่จะเข้ามาใช้บริการบ้าง อีกทั้งในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ไม่เข้าเลย แม้ตอนนี้สถานการณ์เริ่มผ่อนคลายแล้ว แต่เงินทุนตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เงินที่ลงทุนก่อนปิดกิจการตามคำสั่งล็อคดาวน์ตั้งแต่ช่วงโควิดระบาดแรกเริ่ม ของเล่นที่เอามาลงใหม่ก็ชำรุด เก่าและพังไปบ้าง ถ้าต้องเปิดกิจการต่อไป ก็ต้องนำเงินมาลงทุนอีกเป็นล้านบาท จึงตัดสินใจเปิดสวนน้ำให้บริการถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2565 และจำเป็นต้องแจ้งลูกค้าให้ทราบเพื่อความชัดเจน

สำหรับบทเรียนในยุคโควิด พี่บุษมองว่า สถานการณ์โควิดเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ถ้ามีวิกฤตหรือปัญหาอื่นยังพอจัดการได้ แต่พอโควิดมา ก็ควบคุมไม่ได้ หากจะต้องคิดถึงเรื่องธุรกิจใหม่ ตอนนี้คงต้องขอพักเรื่องนี้ไว้ก่อน

สำหรับ 3 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะมีคำสั่งล็อคดาวน์ให้หยุดกิจการ สวนน้ำแสนสนุกเพิ่งจะลงของใหม่เกือบ 6 ล้านบาท พอสั่งปิด เงินที่ลงทุนไปก็หายไปหมดเลย อีกทั้งเงินที่หล่อเลี้ยงกิจการในช่วง 3 ปีที่มีการปิดเพราะป้องกันโควิดอีกหลายระลอกทำให้แบกธุรกิจต่อไปไม่ไหว

พี่บุษเคยคิดว่าเมื่อได้วัคซีนแล้ว สถานการณ์จะดีขึ้น ต้องบอกตามตรงว่าปีแรกไม่มีมาตรการอะไรช่วยเหลือ ทางสวนน้ำก็จ่ายเงินตามปกติเพราะไม่คิดว่าจะปิดยาวขนาดนี้ แต่คาดการณ์ผิด เพราะมีการสั่งปิดเป็นระลอก สูญเงินหลักสิบล้านบาท ก็ยอมรับว่าเสียใจพอสมควร เพราะตอนที่คิดเปิดกิจการสวนน้ำ เราก็เปิดเพราะอยากให้เด็กๆ มีพื้นที่ให้เล่น เพราะเรารู้ว่าไม่มีที่เล่นน้ำ หายาก เห็นที่อื่นปิดกิจการก่อนหน้านี้ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน ไม่คิดว่าวันหนึ่งก็ต้องมาปิดกิจการเหมือนกับที่เคยอ่านข่าวจากที่อื่นๆ มา

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา