“เธอเป็นลูกคุณหนู เธอเป็นหลานคุณนาย มือซ้ายใส่ Pandora ส่วนมือข้างขวาใส่เพชรโคตร shine” เพลงฮิตๆ ที่ร้องกันนี้ เคยสงสัยไหมว่า Pandora หน้าตาเป็นยังไง?

‘Pandora’ คือแบรนด์เครื่องประดับระดับโลกที่เริ่มจากร้านเล็กๆ ในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยปัจจุบันมีสาขาอยู่ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
เมื่อพูดถึง Pandora หนึ่งในสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ คงหนีไม่พ้น ‘ชาร์ม’ (Charm) เครื่องประดับขนาดเล็กที่มักนำไปติดห้อยรอบๆ กำไลข้อมือ โดยมีให้เลือกหลากหลายคอลเล็กชัน ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ซื้อ
เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ คือ เดิมที Pandora มีชื่อว่า ‘Populair Smykker’ (Popular Jewelry) แต่มาเปลี่ยนชื่อหลังจากเปิดตัวชาร์ม ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ของยุคนั้น และประสบความสำเร็จมาก จนนำชื่อคอลเล็กชันนี้มาตั้งเป็นชื่อองค์กร กลายเป็น Pandora จวบจนปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม Pandora ไม่ได้มีแค่ชาร์มเท่านั้นนะ เพราะแบรนด์ยังขายเครื่องเงินเครื่องทองอีกมากมาย อาทิ แหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ จี้ และต่างหู
แบรนด์ออกจะดูแกลม แถมดังไปทั่วโลกขนาดนี้ คุณเชื่อไหมว่า Pandora มีความสัมพันธ์กับประเทศไทยมายาวนานแล้ว และไทยอาจมีความสำคัญกับ Pandora มากกว่าที่หลายๆ คนคิด?
ที่มาที่ไปของความสัมพันธ์ระหว่าง Pandora กับประเทศไทยจะเป็นอย่างไร? มาดูกัน
ไทยอยู่คู่ Pandora มาตั้งแต่ช่วงแรกๆ

จุดเริ่มต้นของ Pandora มาจากสองสามีภรรยาชาวเดนมาร์กอย่าง ‘เพียร์ อีนีโวลด์เซ่น’ (Per Enevoldsen) ช่างทองผู้หลงใหลในเครื่องประดับ กับ ‘วินนี่ ลิลเยอร์บอร์ก’ (Winnie Liljeborg) เจ้าหน้าที่ธนาคารสาวที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้านตัวเลขและการคำนวณ
ในปี 1982 ทั้งสองเริ่มก่อตั้ง Pandora เพราะต้องการสร้างสรรค์เครื่องประดับคุณภาพสูงที่ทุกคนเข้าถึงได้ และในช่วงปีแรกๆ ของกิจการ ‘เพียร์’ กับ ‘วินนี่’ มักเดินทางมาประเทศไทย เพื่อตามหาเครื่องประดับนำเข้าไปวางขายหน้าร้าน
ผ่านไปไม่กี่ปี ร้านของพวกเขาขายดีขึ้นเรื่อยๆ จนประมาณปี 1997 ถึงเริ่มจ้าง ‘ดีไซน์เนอร์’ เข้ามาทำงานในองค์กรอย่างจริงจัง เพื่อออกแบบเครื่องประดับในสไตล์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ก่อนจะเริ่มผลิตเองในปี 1989 ที่ประเทศไทย
ความสัมพันธ์ของ Pandora กับประเทศไทยไม่จบแค่นั้น เพราะในปี 2005 ทางบริษัทยังเปิดฐานการผลิตขนาดใหญ่ที่ ‘นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี’ จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยแยกออกเป็นสองโรงงาน และต่อมาในปี 2017 ก็ไปเปิดอีกแห่งที่ ‘จังหวัดลำพูน’
ฐานการผลิตหลักทั้งสองแห่งนี้ถือเป็นกำลังสำคัญสำหรับ Pandora เลยก็ว่าได้ เพราะนอกเหนือจากไทยแล้ว มีเพียงแค่ ‘เวียดนาม’ อีกประเทศเดียวเท่านั้นที่ Pandora กำลังขยายฐานการผลิตไป โดยจะเปิดทำการในปี 2026
ด้านบุคลากรของโรงงานในไทยเองก็บอกว่า ช่วงที่ผ่านมานี้ เจ้าหน้าที่จากเวียดนามได้เข้ามาเรียนรู้งานกับเจ้าหน้าที่ของไทยด้วย
ก่อตั้งมาแล้ว 36 ปี สร้างงานให้คนไทยกว่า 10,000 คน

ทุกวันนี้ ประเทศไทยเป็นบ้านให้กับโรงงานผลิต Pandora ถึง 3 แห่ง โดยมีกำลังการผลิตสูงกว่า 100 ล้านชิ้นต่อปี แถมยังเป็นศูนย์รวมพนักงานและผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 12,000 ชีวิต
ไม่ใช่แค่นั้น ด้วยความที่ Pandora มุ่งเน้นในการผลิตเครื่องประดับงานฝีมือประณีต ทำให้กระบวนการส่วนใหญ่ในโรงงาน ยังอาศัย ‘คน’ อยู่ ต่างจากอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มักนำเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์เข้ามาแทน
ดังนั้น การเข้ามาของ Pandora จึงสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทยในพื้นที่ถึง 7,000 ตำแหน่งเลย
‘จีรเศรษฐ บูรณะสัมฤทธิ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานห่วงโซ่อุปทานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนดอร่า โพรดักชั่น จำกัด เผยว่า
“ตลอดระยะเวลา 36 ปีมานี้ Pandora ได้สร้างโอกาสในการทำงาน และยกระดับทักษะฝีมือในการสร้างสรรค์เครื่องประดับให้กับคนไทยมาแล้วนับหมื่นคน”
แน่นอนว่า ปัจจุบัน Pandora ไม่ใช่แค่ร้านเล็กๆ ในเดนมาร์กอีกต่อไป เพราะบริษัทขยายตัวยักษ์ใหญ่ จนเข้าตลาดหุ้น มีจุดจำหน่ายกว่า 6,700 สาขา พร้อมพนักงานอีก 33,000 คนทั่วโลก แถมยังสร้างรายได้เกือบ 1.6 แสนล้านบาทในปี 2024
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยแปรเปลี่ยนคือ ความมุ่งมั่นในการส่งต่อเครื่องประดับงานฝีมือประณีต และการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยนั่นเอง
เปิดตัวนิทรรศการ The Pandora Story ครั้งแรกในไทย

ด้วยเหตุนี้ Pandora จึงเปิดตัวนิทรรศการ ‘The Pandora Story’ ณ ฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมอัญธานี เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของธุรกิจตั้งแต่จุดเริ่มต้น สู่การเป็นแบรนด์เครื่องประดับแบบครบวงจร ที่ผสานคุณค่าของงานฝีมือประณีต เข้ากับนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย
ไฮไลต์สำคัญที่ทุกคนจะได้ชมในนิทรรศการคือ
- จุดเริ่มต้นและพัฒนาการของแบรนด์: ย้อนเวลาไปตั้งแต่สมัยร้านยังเล็กๆ สู่การก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำวงการเครื่องประดับยุคใหม่
 
- งานฝีมืออันประณีตและนวัตกรรมเครื่องประดับ: ชมกระบวนการสร้างสรรค์เครื่องประดับตั้งแต่การออกแบบอย่างพิถีพิถันในสตูดิโอที่เดนมาร์ก ไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของการรังสรรค์โดยช่างมากฝีมือในไทย
 
- เส้นทางสู่ความยั่งยืน: เจาะลึกพันธกิจด้านความยั่งยืนของ Pandora โดยเฉพาะความสำเร็จในการเปลี่ยนมาใช้โลหะเงินและทองรีไซเคิล 100%
 
- อนุสรณ์ Tree of Loves: งานประติมากรรมต้นไม้โลหะ อันเป็นตัวแทนของเพื่อนๆ พนักงานชาว Pandora ทั่วโลกที่อยากบอกเล่าเรื่องความรักในฉบับของตนเอง ผ่านข้อความที่สลักลงบนใบไม้
 
“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าชมนิทรรศการ The Pandora Story ทุกท่าน จะได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวอันแสนพิเศษของเรา และเห็นคุณค่าที่เกิดจากการหลอมรวมงานฝีมือแบบดั้งเดิมและนวัตกรรมเครื่องประดับระดับโลกเข้าด้วยกัน” จีรเศรษฐกล่าว
จากเรื่องราวความสำเร็จของ Pandora นี้ ก็สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะเริ่มจากร้านค้าเล็กๆ แต่เพราะเพียร์และวินนี่เลือกที่จะยืนหยัดในจุดมุ่งหมาย พวกเขาจึงสามารถผันตัวมาเป็นแบรนด์เครื่องประดับระดับโลกได้
ฉะนั้น หากวันนี้ คุณคิดจะเริ่มทำอะไร ก็ขอให้รักษาแพสชันไว้ให้ดี และวันหนึ่ง คุณอาจไปได้ไกลไม่ต่างจาก Pandora
- เปิด 4 กลยุทธ์ “Pandora” สร้างเครื่องประดับให้สาวๆ ทุกคนจับต้องได้ (ไม่ต้องยืมเพื่อน)
 - รู้จัก Pandora แบรนด์เครื่องประดับอัญมณีเบอร์ 1 ของโลก กับกลยุทธ์สร้างธุรกิจเติบโตแสนล้านบาท
 
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา