ตลาดชั้นในชายระอุ GQ ลงสนามด้วยนวัตกรรม J.Press บุกชายบิ๊กไซส์ Rosso ขยายไลน์สินค้า

ตลาดชั้นในชายแบรนด์ไทยเดือด GQ แบรนด์เครื่องแต่งกาย บุกตลาดด้วย GQ Cool Tech ชูแนวคิด “เย็นไข่ ใส่สบาย” ด้าน J.Press ร่วมมือพาร์ตเนอร์ทำชั้นในชายไซส์ใหญ่ ส่วน Rosso ขยายไลน์สินค้าเครื่องแต่งกาย

gq

GQ กับการกระตุ้นตลาดชั้นในชาย

ตลาด ชั้นในชาย อาจไม่มีความคึกคักนักในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแบรนด์ไทยยักษ์ใหญ่ทั้ง J.Press และ Rosso ที่ยังคงความแข็งแกร่งในตลาดชั้นในชายระดับเริ่มต้น ส่วนแบรนด์ต่างประเทศอื่น ๆ มีการทำตลาดด้วยการออกแบบที่หลากหลายเพื่อจูงใจผู้ซื้อชั้นในชายระดับบน

แต่ล่าสุด บริษัท สุภารา จำกัด เจ้าของแบรนด์เครื่องแต่งกาย GQ เปิดตัว GQ Cool Tech ชั้นในชายที่มาพร้อมแนวคิด “เย็นไข่ ใส่สบาย” ช่วยให้อุณหภูมิในชั้นในลดลง 2 องศาเซลเซียส ลดปัญหาอับชื้น เเละยังมาพร้อมนวัตกรรมอื่น ๆ ที่มาช่วยแก้ปัญหาของการสวมกางเกงในของผู้ชาย

George Hartel ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สุภารา จำกัด เล่าให้ฟังว่า GQ ใช้เวลากว่า 1 ปีในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ เน้นแก้ปัญหาการสวมใส่ด้วยนวัตกรรม มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อยคือ ทรง Bikini, ทรง Trunks และ ทรง Trunks ผ้า Poly/Spandex วางจำหน่ายในราคา 499 บาท มี 5 สีให้เลือก

การปั้นแบรนด์ให้ไปไกลกว่าเสื้อ

ก่อนหน้านี้ GQ มีการปฏิวัติแบรนด์ให้โดดเด่นในยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ เสื้อเชิ้ตขาว ที่ใส่นวัตกรรมต่าง ๆ เข้าไป เช่น ไม่ยับ, เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงมีหลายไซส์ เหมาะทั้งชาย และหญิง แม้จำหน่ายในราคาค่อนข้างสูง แต่ด้วยกระแสที่จุดติดทำให้ผู้บริโภคกล้าซื้อ

รวมถึง หน้ากากอนามัย ที่ต่อยอดจากนวัตกรรมของเสื้อ, กางเกงขายาว, เสื้อยืด และเสื้อแจ็คเก็ต ที่มีคุณสมบัติแตกต่าง และล่าสุดคือ ชั้นในชาย ที่ชูความแตกต่าง และจำหน่ายในราคาค่อนข้างสูงเช่นเดิม แต่เชื่อว่าด้วยกระแสที่จุดติดเช่นเดิมน่าจะช่วยขับเคลื่อนยอดขาย ชั้นในชาย รุ่นใหม่ได้ไม่มากก็น้อย

บริษัท สุภารา จำกัด ในปี 2020 มีรายได้รวม 705 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 3.08 ล้านบาท อ้างอิงข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีช่องทางจำหน่ายทั้งหน้าร้านของตัวเอง, จุดจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ และหน้าร้านอนไลน์ โดยแบรนด์ GQ มีประวัติยาวนานกว่า 60 ปี

J.Press กับการรุกตลาดชั้นในชายไซส์ใหญ่

ด้าน J.Press หนึ่งในแบรนด์ชั้นในชายชั้นนำของไทย เมื่อกลางปี 2021 ได้เปิดตัวชั้นในชายสำหรับกลุ่มผู้ชายไซส์ใหญ่ ถือเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าอีกกลุ่มที่น่าสนใจ และการทำตลาดนี้ได้ร่วมมือกับ เบ้อเร่อ แบรนด์เสื้อผ้าไทยที่เจาะตลาดคนอ้วนโดยเฉพาะ

บริษัท ไทย เจ.เพรส จำกัด ในปี 2020 มีรายได้รวม 222 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14 ล้านบาท อ้างอิงข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยปัจจุบัน J.Press ไม่ได้มีแค่ชั้นในชาย เพราะมีการทำตลาดเสื้อกล้าม, เสื้อยืด และเสื้อโปโล รวมถึงหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ J.Press ก่อตั้งเมื่อปี 1983 ทำตลาดชั้นในชายแบรนด์ J.Press และ Luft โดยนอกจากผลิต และจำหน่าย ชั้นในชาย ภายใต้แบรนด์ตัวเอง ยังรับผลิต ชั้นในชาย ให้กับแบรนด์ชั้นนำเพื่อจำหน่ายในต่างประเทศ เช่น EMPORIO ARMANI, PUMA และ Guess เป็นต้น

Rosso เร่งขยายไลน์สินค้าเพิ่มเติม

ส่วนคู่แข่งตลอดกาลของ J.Press อย่าง Rosso มีการทำตลาดสินค้าอื่น ๆ นอกจาก ชั้นในชาย เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าชาย-หญิง, เสื้อผ้าสำหรับเด็ก, รองเท้า รวมถึงกลุ่มสินค้าหน้ากากอนามัย และเครื่องพ่นแอลกอฮอล์

อย่างไรก็ตาม สินค้าเรือธงของ Rosso ยังเป็น ชั้นในชาย แบรนด์ Rosso กับ Apple มีการขยายไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน เช่นเวียดนาม, กัมพูชา, ลาว และเมียนมา ทั้งส่งออกไปในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก ทั้งเคลมตัวเองเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด ชั้นในชาย ของประเทศไทย

บริษัท รอซโซ่ จำกัด ในปี 2020 มีรายได้รวม 335 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14 ล้านบาท อ้างอิงข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และนอกจาก GQ, J.Press และ Rosso ปัจจุบันมี SME หันมาทำตลาด ชั้นในชายมากขึ้น ชูความแตกต่างเรื่องการสวมใส่สบายในราคาที่คุ้มค่า

สรุป

ชั้นในชาย คือหนึ่งในสินค้าที่จำหน่ายได้เรื่อย ๆ เพราะความต้องการมีอยู่ตลอด แต่ตลาดจะใหญ่เทียบเท่าชุดชั้นในผู้หญิงมูลค่า 30,000 ล้านบาท หรือไม่ ก็คงบอกได้ว่าไม่ขนาดนั้น เพราะสินค้าที่ครองตลาดเป็นหลักคือชั้นในชายราคาเริ่มต้น และถึงจะเป็นกลุ่มราคาสูง ก็ยังไม่เทียบเท่ากับกลุ่มยกทรงที่ราคาแพงกว่าอยู่ดี

อ้างอิง // GQ, J.Press, Rosso

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา