การจับมือกันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายฐานลูกค้าของ Starbucks ในประเทศจีนผ่านแอปพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มในเครือ Alibaba ซึ่งมีฐานผู้ใช้งานเกือบ 1 พันล้านคน
บุกจีนหนักขึ้น
แม้ว่าก่อนหน้านี้ลูกค้าสามารถสั่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ แบบเดลิเวอรี่หรือพรีออร์เดอร์แล้วไปรับที่หน้าร้านผ่าน Starbucks Now ได้เท่านั้น
แต่หลังจากนี้ลูกค้าจะสามารถสั่งสินค้าของ Starbucks ผ่านแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ในเครือ Alibaba ได้แก่ Taobao (แพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์), Alipay (แพลตฟอร์มค้นหาร้านอาหาร, บริการขนส่งอาหาร, ตั๋วหนัง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, สถานที่ท่องเที่ยว) และ Amap (แอปพลิเคชั่นแผนที่) ซึ่งเป็นผลมาจากการเซ็นสัญญาร่วมกันในปี 2018
Starbucks หวังว่าการบุกตลาดจีนจะช่วยฟื้นฟูยอดขายได้ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้หลังจากที่มียอดขายลดลงในช่วงโควิดที่ผ่านมา นอกจากนี้ Starbucks ก็ขยายตลาดมาเพื่อสู้กับ Luckin Coffee ร้านกาแฟรายใหญ่ที่มีสาขาทั่วประเทศจีนซึ่งมีข่าวฉาวเรื่องการบิดเบือนยอดขายมาโดยตลอด
นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Starbucks ก็ร่วมมือกับแอปพลิเคชั่น WeChat ของ Tencent เพื่อลูกค้าที่ต้องการเป็นสมาชิกของ Starbucks และใช้บริการเดลิเวอรี่เช่นเดียวกัน
จะเห็นได้ว่าแม้มีสถานการณ์ครุกรุ่นทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา บริษัทใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่าง Starbucks ก็ตัดสินใจมาลงทุนที่จีน เพราะเห็นโอกาสเติบโตสูงนั่นเอง
ที่มา: CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา