เวียดนามเนื้อหอม ใครๆ ก็ไปเวียดนาม ยักษ์ใหญ่ทุนไทย “ศรีนานาพร” หรือ SNNP ก็มาตั้งโรงงานใหม่ที่นี่ สำหรับใครที่มองว่าปัจจัยสำคัญคือค่าแรงต่ำ อย่าเข้าใจผิดนะ อ่านบทความนี้มีคำตอบ
ล่าสุด บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ตั้งโรงงานผลิตสินค้าในเวียดนาม ตั้งเป้าเป็นฐานการผลิตสินค้ากลุ่มขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มครบวงจรในปี 2566 โดยโรงงานขนาด 20,000 ตารางเมตร เฟสแรก ผลิตขนมขึ้นรูปและขนมปังแท่งแบรนด์โลตัส (ซึ่งก็มีผลิตภัณฑ์ที่รู้จักกันดีคือ ขาไก่) จากนั้นจะเพิ่มการผลิตสินค้าแบรนด์ เบนโตะ เยลลี่พร้อมดื่มและเยลลี่คาราจีแนนแบรนด์เจเล่
ฐากร ชัยสถาพร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ระบุว่า บริษัทได้ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มมาเป็นระยะเวลามากกว่า 30 ปี โดยสร้างแบรนด์ต่างๆ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้
1) กลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว ได้แก่ เบนโตะ โลตัส เบเกอรี่เฮ้าส์
2) กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ได้แก่ เจเล่ และเมจิกฟาร์มเฟรช
ศรีนานาพรตั้งเป้าจะเติบโตในระดับอาเซียน จากการเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเริ่มต้นที่กัมพูชาและเวียดนามภายใต้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Localization Strategy โดยประเทศเวียดนามได้เริ่มเข้าไปเปิดตลาดร่วมกับบริษัท Chance and Challenge Co., Ltd. หรือ CAC พันธมิตรนำเข้าขนมขบเคี้ยวจากไทยยาวนานกว่า 15 ปี ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้บริโภค เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง มีความเชี่ยวชาญในการกระจายสินค้าครอบคลุมร้านค้า 140,000 แห่ง ผ่านช่องทางแบบเดิมและอีก 8,275 ร้านค้าผ่านช่องทางสมัยใหม่
หลังจากที่บริษัทเห็นถึงศักยภาพในการขยายโอกาสทางการตลาดในประเทศเวียดนาม ที่มีความพร้อมทั้งด้านแรงงาน วัตถุดิบ และภูมิประเทศ เนื่องจากอุตสาหกรรมภาคการผลิตแข็งแกร่ง บริษัทจึงก่อตั้งโรงงานผลิตสินค้าภายใต้ชื่อบริษัท S.T.Food Marketing (STFM) ถือหุ้น 100% ผ่าน บจก. SNNP International ซึ่งถือหุ้นโดยบริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) 99.9% ตั้งอยู่ที่จังหวัดบินห์เซือง (Binh Duong) ในนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่เศรษฐกิจ
เรียกว่าเวียดนามสิงคโปร์อินดัสเทรียลพาร์คหรือ VSIP ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญในภาคใต้ของเวียดนามห่างจากโฮจิมินห์ 30 กิโลเมตร ด้วยพื้นที่รวม 20,000 ตารางเมตร เพื่อผลิตสินค้าเยลลี่พร้อมดื่ม ปลาหมึกอบ ปลาหมึกเส้น ขนมขึ้นรูป ขนมปังแท่ง และจำหน่ายในประเทศเวียดนาม พร้อมส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม CLMV และรวมไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชีย
โรงงานจะเริ่มผลิตสินค้าในเฟสแรกคือ ประเภทขนมขึ้นรูปและขนมปังแท่งภายใต้แบรนด์ “โลตัส” ในไตรมาส 4 ของปี 2565 เฟสที่ 2 คือผลิตสินค้าประเภทปลาหมึกอบ ปลาหมึกเส้น และปลาเส้นภายใต้แบรนด์ “เบนโตะ” ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 และเฟสที่ 3 จะผลิตสินค้าเยลลี่พร้อมดื่มและเยลลี่คาราจีแนนภายใต้แบรนด์ “เจเล่” ภายในไตรมาส 3 ของปี 2566
SNNP ตั้งเป้าว่าภายในปี 2566 โรงงานที่เวียดนามจะเป็นฐานการผลิตสินค้าที่สำคัญภายใต้แบรนด์สินค้าต่างๆ ของบริษัทครบวงจร ผลิตสินค้าและทำการตลาดในเวียดนาม หลังทำตามแผนครบทุกเฟสจะส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ต่อไป ปัจจุบัน SNNP มีโรงงาน 6 แห่ง 3 ประเทศ แบ่งเป็นไทย 4 แห่ง กัมพูชา 1 แห่ง และเวียดนาม 1 แห่ง
ส่วนปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดรายได้จากการขายจากประเทศเวียดนาม 300 ล้านบาท ส่วนช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 รายได้อยู่ที่ 218 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 67% YoY สัดส่วนรายได้หลักขาองกลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยว 93% และเครื่องดื่ม 7% ตั้งเป้ายอดขายในเวียดนามทะลุ 2,000 ล้านบาท เติบโต 7 เท่าภายใน 5 ปี และอาจจะเร็วกว่าที่คาดการณ์ได้อีก
สำหรับรายได้ส่งออกช่วงครึ่งแรกปี 2022 นั้น แบ่งเป็นประเทศ CLMV 77% อินโดนีเซีย 4% และอื่นๆ 19% รวม 591 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังคาดว่า 5 ปีถัดไปยอดขายจะเพิ่มราว 40% จากฐานรวม หรือราว 8,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี หรือ 40-60% อาจเร็วกว่านั้นเป็น 50:50 สัดส่วนการผลิตและจัดจำหน่ายอยู่ที่ 80% ขณะที่นำเข้าไทยราว 20%
การตั้งโรงงานผลิตขนมที่เวียดนามไม่ใช่เพราะค่าแรงถูก เพราะเขาเน้นเครื่องจักรผลิต และยังมองเห็นเทรนด์ปัญหาขาดแคลนแรงงานกำลังจะมาแน่นอน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเวียดนามมีตลาดใหญ่ มีศักยภาพทำให้องค์กรเติบโตได้มากและยังมีภาษีดึงดูดการลงทุนสูง โดยช่วง 2 ปีแรก ภาษีเงินได้นิติบุคคล 0% หลังจากนั้นอีก 4 ปีก็จัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล 50%
คนเวียดนามนิยมวัฒนธรรมและสินค้าจากไทยมาก แม้จะผลิตที่เวียดนามก็จะพิมพ์ชื่อแบรนด์เป็นภาษาไทยเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งเมื่อโลกปรับตัวเข้ากับกระแสโลกาภิวัตน์มากขึ้น การผลิตที่ใดก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว ซึ่ง SNNP ก็ไม่ได้มีตลาดอยู่เฉพาะประเทศ CLMV เท่านั้น แต่ยังมีส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกาด้วย แต่ฐานการผลิตจัดจำหน่ายแบบ Full System นี้จะอยู่ที่เวียดนามและกัมพูชา ส่วนประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกก็คือฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ส่วนจีนก็น่าสนใจแต่การเดินทางยังไม่สะดวกมากนัก
โดย SNNP จะทำเป็นโมเดล 3 ระบบ คือ 1) Full System อยู่ที่เวียดนาม กัมพูชา 2) คือ Joint Venture เป็นลักษณะร่วมทุนกัน ไม่มีโรงงานผลิต และ 3) Export/ Distribution คือส่งออกหรือจัดจำหน่าย ซึ่งถ้ายอดขายดีก็จะค่อยๆ มาเป็นโมเดลที่ 2 คือร่วมทุนต่อไป
การมาตั้งโรงงานที่เวียดนามของ SNNP นี้ เน้นใช้เครื่องจักรทำงานมากกว่าใช้แรงงาน เนื่องจากมองว่าอีก 4-5 ปีข้างหน้า เรื่องแรงงานจะเริ่มมีปัญหา สำหรับปัจจัยความสำเร็จนั้น SNNP มองว่าอยู่ที่คุณภาพสินค้าเป็นอันดับ 1 ซึ่งเวียดนามถือว่ามีตลาดขนมที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเบนโตะถือว่านิยมเป็นอันดับ 1 ตามด้วยขนมโลตัส/ ขาไก่ และเจเล่
SNNP เติบโตจากธุรกิจครอบครัว ตั้งเป้าจะเป็นบริษัทระดับภูมิภาคและเป็นบริษัทระดับโลกต่อไป สำหรับต้นปีนี้จะผลิตขาไก่รสเนื้อ รสซอสพริกเวียดนาม และเบนโตะรสซอสเวียดนาม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา