THE LINE เมืองแนวตั้งแห่งแรกของโลก กลางทะเลทราย เน้นพื้นที่สีเขียว ไม่ใช้รถ ไม่มีถนน

ช่วงก่อนหน้านี้ หากคิดถึงเมืองแนวตั้งที่ไม่มีถนน มีแค่ที่อยู่อาศัยและธรรมชาติ ก็คงจะมีแต่ในภาพยนตร์แฟนตาซีเท่านั้น แต่ตอนนี้ซาอุดิอาระเบียได้เผยแผนสร้างเมืองแนวตั้งของโลกบนพื้นที่ทะเลทรายสุดลูกหูลูกตา

ซาอุดิอาระเบียเผยแผนการที่มุ่งสร้างเมืองแห่งอนาคตที่เป็นเมืองแนวตั้งแห่งแรกของโลกบนพื้นที่ทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ใกล้กับทะเลแดง โดยใช้ชื่อว่า “THE LINE” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Saudi Vision 2030 ตามแถลงการณ์ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของซาอุดิอาระเบีย

THE LINE เป็นเมืองแนวตั้งมีระยะทางยาว 170 กิโลเมตร ขนาดที่มีกว้างเพียง 200 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร ทำให้ผู้คนเดินทางข้ามเมืองได้อย่างสะดวกบนพื้นที่ทั้งหมดของเมืองขนาด 34 ตารางกิโลเมตร เมืองจะมีกระจกเงาติดตามแนวกำแพงรอบเมืองด้วยเพื่อให้เมืองกลมกลืนไปกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับว่าในแง่การออกแบบ The Line มีจุดเด่นและแตกต่างจาก ‘ความเป็นเมือง’ ปกติ

เมืองสร้างจากแนวคิด “Zero Gravity Urbanism” ที่สร้างเป็นแนวตั้ง (Vertical) แทนแนวนอน (Horizontal) เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยเดินทางอย่างไร้รอยต่อในแนวขึ้น ลง และแนวขวาง

ซาอุดิอาระเบียวางแผนให้ THE LINE รองรับผู้อยู่อาศัยได้ 9 ล้านคน ซึ่งนับว่าเป็นความทะเยอทะยานอย่างมากเพราะประชากรเทียบเท่ากับเมืองใหญ่ อย่างเช่น New York City ในรัฐ New York ของสหรัฐอเมริกาที่มีประชากรอยู่ราว 8.5 ล้านคนแต่มีพื้นที่กว่า 300 ตารางกิโลเมตร

ผังเมืองที่แตกต่างไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความแปลกใหม่ในแง่การออกแบบเท่านั้น แต่ยังเอื้อให้เกิดวิถีชีวิตที่เน้นที่ตัวมนุษย์ที่เป็นผู้อยู่อาศัยมากกว่าเทคโนโลยี การเป็นเมืองแนวตั้งที่เชื่อมต่อถึงกันหมดทำให้ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากโครงสร้างพื้นฐานและการขนส่งของเมือง ผู้คนสามารถเดินทางในระยะทาง 170 กิโลเมตรนี้ด้วยรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง และเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยการเดินเพียง 5 นาที ทำให้ The Line จะเป็นเมืองที่ไม่มีถนน ไม่มีรถยนต์ ไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ จะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% และพื้นที่ 95% จะเป็นพื้นที่ธรรมชาติ

THE LINE ถูกวางแผนให้เป็นเมืองที่ตรงข้ามกับความเป็นเมืองในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง โดยเน้นไปที่คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คน ไม่มีมลภาวะและไม่มีอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดการเดินทางเพื่อเพิ่มเวลาพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ต้องเสียค่าใช้ประกันรถยนต์ ค่าน้ำมัน ค่าที่จอดรถ ทำให้คนมีรายได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นเมืองที่เน้นธรรมชาติและเวลาพักผ่อน แต่ความทะเยอทะยานทางธุรกิจไม่ได้หายไปด้วย แต่ในทางกลับกัน เมืองจะยิ่งสร้างโอกาสและประสบการณ์ทางธุรกิจใหม่ ๆ และจะสร้างงานราว 380,000 ตำแหน่งภายในปี 2030

เมืองแนวตั้งใจกลายทะเลทรายเป็นส่วนหนึ่งของการรีแบรนด์ซาอุดิอาระเบียเพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศข้างเคียงได้ The Line ถูกตั้งเป้าให้เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่พลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ โดยตั้งเป้าว่าจะมีผู้เยี่ยมชม 100 ล้านคนต่อปี และหวังว่าภายในปี 2030 การท่องเที่ยวจะกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นได้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

THE LINE เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NEOM ของ Saudi Vision 2030 ที่ริเริ่มขึ้นในปี 2017 โดยเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มีเป้าหมายที่จะมุ่งสร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของซาอุดิอาระเบีย แทนที่การหวังพึ่งรายได้จากการส่งออกน้ำมันที่เป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป 

ที่มา – NEOM, CNN, The National News

อ่านเพิ่มเติม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา