ลดความหนาแน่นเมืองหลวง คืนชีวิตเมืองร้าง: ญี่ปุ่นแจกเงิน หนุนคนย้ายออกนอกเมือง

ญี่ปุ่นเตรียมแจกเงินกระตุ้นให้คนย้ายออกจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนเมษายนที่ 3 แสนเยน เป็น 1 ล้านเยน ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้หมู่บ้านที่กำลังเสื่อมโทรมเพราะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น 

Tokyo, Japan

แม้จำนวนประชากรในโตเกียวจะลดลงครั้งแรกในปีที่ผ่านมา แต่ผู้มีอำนาจในการกำหนดนโยบายก็เชื่อว่าควรจะลดความหนาแน่นของประจำนวนประชากรในตัวเมืองลง ทั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนให้คนออกมาใช้ชีวิตใหม่ในย่านอื่นๆ ของญี่ปุ่นที่ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะเมืองหลวง 

จำนวนเงินสนับสนุนดังกล่าว เป็นส่วนที่เพิ่มจากวงเงินเดิมที่ 3 ล้านเยน เป็นวงเงินที่เสนอให้ครอบครัวที่อาศัยอยู่ใน 23 เขตหลักของโตเกียว เขตอื่นๆ และจังหวัดใกล้เคียง เช่น ไซตามะ ชิบะ คานากาวะ

โครงการย้ายคนออกจากเมืองหลวงนี้ มีเทศบาลราว 1,300 แห่ง หรือราว 80% ของทั้งหมดก็เข้าร่วมโครงการนี้ ครอบครัวที่สนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องอาศัยในบ้านหลังใหม่นี้อย่างน้อย 5 ปี และหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวจะต้องทำงานหรือมีแผนที่จะเปิดธุรกิจใหม่ สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในที่แห่งใหม่ไม่ถึง 5 ปีจะต้องคืนเงินด้วย

สำหรับแนวคิดที่สนับสนุนให้คนย้ายออกนอกเมืองนั้น เพื่อให้ครอบครัวที่มีลูกอายุไม่เกิน 18 ปีไปช่วยทำให้เมืองอื่นๆ ที่ถูกทิ้งร้างเพราะคนอพยพเข้าไปทำงานในเมืองจำนวนมากได้กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น รวมทั้งลดแรงกดดันด้านพื้นที่และการบริการสาธารณะของโตเกียว เมืองหลวงที่มีประชากรหนาแน่นมากที่สุดในโลกถึง 35 ล้านคน

ครอบครัวที่จะย้ายออกจากเมืองหลวงจะได้รับเงินราว 1-3 ล้านเยนต่อครัวเรือน ครอบครัวที่มีลูก 2 คน อาจจะได้รับค่าย้ายออกสูงถึ 5 ล้านเยน สำหรับเงินที่ได้รับ ครึ่งหนึ่งจะมาจากรัฐบาลกลาง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะนำมาจากเทศบาลท้องถิ่น

ต้องมีเงื่อนไขสำคัญ 3 เรื่องคือ ต้องได้รับการจ้างงานจากบริษัทขนาดเล็กหรือขนาดกลางในพื้นที่ที่ต้องการย้ายไปอยู่อาศัย หรือจะทำงานจากบริษัทเดิมก็ย่อมได้ แต่เป็นการทำงานแบบระยะไกล หรืออีกทางหนึ่งก็คือเริ่มทำธุรกิจในบ้านหลังใหม่

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวนั้น ปี 2021 สนับสนุนไปแล้ว 1,184 ครัวเรือน ปีนี้เรื่งการทำงานระยะไกลกลายเป็นเรื่งธรรมดาสามัญไปแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้ ปี 2020 รวม 290 ครัวเรือน และปี 2019 รวม 71 ครัวเรือน รัฐบาลญี่ปุ่นหวังว่าประชาชนจะย้ายออกจากโตเกียวไปยังชนบทภายในปี 2027 ราว 10,000 คน

ที่มา – The Guardian

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา