ไม่ใช่แค่เขียนข่าว แต่หุ่นยนต์ก็ทำงานสาย PR ได้ ใช้วิเคราะห์แบรนด์ ดูฟีดแบ็ค ทำการตลาด

ก่อนหน้านี้ได้เห็นหลายสำนักข่าวนำเอาหุ่นยนต์ AI มารายงานข่าว นอกจากนั้นยังเห็นว่า Google มีโปรเจ็กต์ใหญ่เกี่ยวกับหุ่นยนต์เขียนข่าว แต่ล่าสุด ไม่อยู่แค่วงการข่าวเท่านั้น ได้ขยายไปสู่สายงาน PR แล้ว

Photo: flickr.com by Jack Bonner

เก็บข้อมูล วิเคราะห์ ทำงานประชาสัมพันธ์แบบตรงจุด ด้วย AI

อย่าไปคิดเอาเองเชียวว่า “เทคนิคการประชาสัมพันธ์” ที่เป็นเรื่องต้องสัมพันธ์กับความรู้สึกของมนุษย์นั้น หุ่นยนต์จะทำไม่ได้ เพราะด้วยข้อมูลที่มากพอประกอบกับการวิเคราะห์ที่แม่นยำ หุ่นยนต์ที่พัฒนามาเป็นอย่างดีหรือที่จะเรียกว่า AI นั้น สามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทด้านการตลาดแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Shift Communications ได้ตั้งทีมเทคโนโลยีการตลาดขึ้นมา 1 ทีม มีคนในทีมทั้งหมดประมาณ 10 คน และ 6 คนในนั้นเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูล (data analysts) โดยทีมนี้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายเงิน การใช้สื่อออนไลน์ หรือพฤติกรรมการบริโภคต่างๆ ผ่าน Machine Learning

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าแบรนด์ส่งสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างลงสู่ตลาด ทีมนี้จะมีหน้าที่ในการเก็บข้อมูลทั้งหมดของผู้บริโภค ทั้งฟีดแบ็คด้านดีด้านลบ ผ่านทางการโพสต์ในออนไลน์ บทความ หรือแม้กระทั่งว่าการพูดถึงสินค้านี้ ขอย้ำว่าการพูดในความหมายนี้คือ “การพูดผ่านเสียงจริงๆ” แต่ไม่รู้แน่ว่าทางทีมเก็บข้อมูลอย่างไร แต่เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้มาแล้ว หุ่นยนต์ AI ที่ทางทีมพัฒนาจะรวบรวมนำมาทำเป็นข้อมูล แล้วรายงานเป็นข่าว PR นั่นเอง

ความน่าสนใจไม่ใช่แค่การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงประชาสัมพันธ์แบบเจาะลึกเท่านั้น แต่มันอาจเป็นการปฏิวัติวงการประชาสัมพันธ์หรือรวมถึงวงการโฆษณาก็ได้ เพราะด้วยข้อมูลอันมหาศาล จะทำให้หุ่นยนต์เข้าใจการทำ PR ที่ตรงใจกับผู้บริโภคแต่ละคนได้ โดยไม่ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์หว่านแห แบบที่เคยทำตามๆ กันมา

พูดให้เห็นภาพก็คือ การทำ PR ที่ผ่านการวิเคราะห์จากหุ่นยนต์จะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคแต่ละคนที่มีรสนิยมไม่เหมือนกัน แบรนด์จะเข้าใจมากขึ้นว่าผู้บริโภคมีทัศนคติต่อสินค้าชิ้นนี้อย่างไร เป็นการกระชับความสัมพันธ์ของแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านหุ่นยนต์ AI ที่น่าสนใจมาก

หรือถ้าหากว่า หุ่นยนต์ PR ก็น่าจะส่งผลต่อวงการโฆษณาด้วย เป็นต้นว่า บิลบอร์ดบนอาคารต่างๆ อาจไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว เพราะไม่ใช่แค่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ หรือทำลายทิวทัศน์ของเมืองเท่านั้น แต่มันคือการสื่อสารที่กระจัดกระจาย ไม่ตรงจุด ไม่ตอบโจทย์ แล้วแบบนี้เราจะซื้อโฆษณาหรือทำการประชาสัมพันธ์แบบเดิมๆ ไปเพื่ออะไร?

อย่างไรก็ตาม ถ้าคนทำงานสาย PR มาอ่านข่าวก็ยังไม่ต้องตกใจ เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่อาจจะต้องตกงานหรืออะไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าวิตกขนาดนั้น เพียงแต่ว่าหุ่นยนต์ AI จะเข้ามาช่วยวางแผนให้การทำ PR รอบด้านและดียิ่งขึ้น

อีกอย่างหนึ่งคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์ บอกว่า “อาจจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 5 ปี กว่าที่ AI จะสามารถทำข่าว PR แบบตรงจุดตรงใจผู้บริโภคได้”

ถึงที่สุดแล้ว ตัวเลข “5 ปี” ก็เป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ แต่ต้องไม่ลืมว่าความเปลี่ยนแปลงบนโลก ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่ไหนๆ บางครั้งก็มาไวกว่าที่คาดการณ์ หลายครั้งความเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ถามผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นสิ่งที่พอจะทำได้ก็คือ ติดตามความเคลื่อนไหว และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง นั่นคือดีที่สุด

ที่มา – Digiday

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา