“เดลิเวอรี่ก็ช่วยไม่ได้” แฟรนไชส์ Pizza Hut เบอร์หนึ่งในอเมริกา ยื่นขอล้มละลายแล้ว

ความต้องการทานอาหารเดลิเวอรี่ของคนในช่วงโควิดไม่มากพอที่จะทำให้ NPC International Inc. แฟรนไชส์รายใหญ่ที่สุดของ Pizza Hut ในสหรัฐอเมริกาดำเนินธุรกิจต่อไปได้จนต้องยื่นขอล้มละลาย

ขอบคุณรูปภาพจาก Shutterstock

ยื่นขอล้มละลาย เพื่อลดภาระหนี้

NPC International Inc. ฟรนไชส์รายใหญ่ของ Pizza Hut ในสหรัฐอเมริกากว่า 1,225 แห่ง ใน 30 รัฐทั่วประเทศอเมริกา แต่ทางบริษัทมีจำนวนหนี้สินกว่า 903 ล้านเหรียญสหรัฐ จึงออกมาประกาศล้มละลายตาม Chapter 11 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คือพนักงานประจำกว่า 7,500 คน และพนักงานพาร์ทไทม์กว่า 28,500 คนของบริษัท

Jon Weber ประธานบริหารของ NPC International Inc. กล่าวว่า ค่าแรงและต้นทุนที่สูงขึ้น รวมถึงความพยายามที่จะขยายตลาดเดลิเวอรี่ในช่วงโควิดนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของธุรกิจร้านอาหาร และถึงแม้ว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาจะมีผลประกอบการดีที่สุดในรอบ 8 ปี ก็ไม่สามารถรั้งธุรกิจไว้ได้ 

อย่างไรก็ตาม การประกาศล้มละลายครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า NPC International Inc. จะยกเลิกกิจการ Pizza Hut เพราะทางบริษัทได้วางแผนชำระหนี้และจะกลับมาพลิกฟื้นธุรกิจแฟรนไชส์อีกครั้ง และการประกาศล้มละลายครั้งนี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแฟรนไชส์ Pizza Hut หลายพันแห่งที่ดูแลโดยบุคคลอื่นๆ  

ธุรกิจร้านอาหารอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน Yum Brands บริษัทแม่ของ Pizza Hut, KFC และ Taco Bell รายงานผลประกอบการรายไตรมาสซึ่งนับจนถึงวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่ายอดขายทั่วโลกของ KFC และ Pizza Hut ลดลง 2% และ 9% ตามลำดับ ในขณะที่ Taco Bell มียอดขายเติบโต 4%

ที่มา : Forbes, Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

Freelance Writer ที่ Brand Inside สนใจเรื่องแบรนด์ การตลาด เทคนิคการทำงาน และการบริหารองค์กร ชอบงานสัมภาษณ์เป็นพิเศษ : )