MK ผนึก Senko จากญี่ปุ่น เปิด M-SENKO ลุยธุรกิจโลจิสติกส์เต็มตัว

อยู่ในธุรกิจอาหารมานาน 30 ปี และมีความเชี่ยวชาญในการขนส่งอาหาร ถึงเวลาที่ MK ทรานฟอร์มตัวเองสู่ธุรกิจใหม่ ผนึกกำลังกับ Senko จากญี่ปุ่น ลุยธุรกิจโลจิสติกส์เริ่มจากขนส่งอาหาร เน้น B2B

จับมือยักษ์โลจิสติกส์เบอร์สองในญี่ปุ่น

MK Restaurant อยู่ในตลาดมายาวนานกว่า 30 ปีแล้ว โดยที่ผ่านมาได้มีการแตกแบรนด์ใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตให้บริษัทอยู่ตลอด ซึ่ง MK เองได้มีหน่วยธุรกิจในการจัดส่งอาหารของตัวเองอยู่แล้วเพื่อกระจายสินค้าไปสาขาทั่วประเทศ โดยได้เริ่มทำจริงจังมา 20 กว่าปีแล้ว

และด้วยจุดแข็งในการเป็น Food Chain ในการจัดส่งอาหาร มีประสบการณ์ยาวนาน ทำให้ MK มองการณ์ไกลขึ้นด้วยการต่อยอดสู่ธุรกิจโลจิสติกส์ให้บริการลูกค้าภายนอก เป็นการแยกธุรกิจใหม่ จึงได้เริ่มเจรจากับ Senko ยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์จากญี่ปุ่น ใช้เวลาในการคุยกัน 1 ปี มีการไปดูงานที่โอซาก้า ทางญี่ปุ่นก็มาศึกษาการทำงานของ MK จนได้ร่วมทุนเปิด M-SENKO หรือ บริษัท เอ็มเซนโค โลจิสติกส์ จำกัด

บริษัทนี้เป็นการร่วมทุนโดยลงขันฝั่งละ 50% ถือหุ้นโดย บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เซน โค กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ใช้ทุนจดทะเบียน 1,300 ล้านบาท วางจุดยืนเป็นบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มี 4 บริการหลัก ได้แก่ คลังสินค้า, การขนส่ง, บริการนำเข้าส่งออกสินค้า และการซื้อขายสินค้า เน้นเจาะลูกค้า B2B เป็นหลัก

โดยที่ Senko มีความเก๋าในตลาดโลจิสติกส์อย่างมาก ทำตลาดมากว่า 100 ปี เรียกว่าเป็นเบอร์ 2 ที่ญี่ปุ่น มีจุดแข็งเรื่อง One Stop Service Logistic เด่นในเรื่องการขนส่งบ้าน ธุรกิจค้าปลีก และเคมีภัณฑ์ ที่ญี่ปุ่นได้ใหล้บริการลูกค้ารายใหญ่อย่างร้านดองกี Aeon และ Family mart มีการทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ จีน เอเชียกลาง และอาเซียน มีศูนย์กระจายสินค้าที่ญี่ปุ่น 500 แห่ง มีรายได้กว่า 103,000 ล้านบาท

สมชาย หาญจิตต์เกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

บริษัทมีแนวคิดที่จะทำธุรกจิโลจิสติกส์มา 2-3 ปีแล้ว เพราะแต่เดิมมีความเชี่ยวชาญในการจัดส่งอาหารอยู่แล้ว เลยคิดที่จะทำเป็นธุรกิจจริงจัง ทางเราแข็งเรื่องการจัดส่งอาหาร ส่วนทาง Senko มีจุดแข็งในการหาลูกค้าใหม่ๆ และยังได้ Know How ในเรื่องโลจิสติกส์ และนวัตกรรมใหม่ๆ เลยมาผนึกกันสร้างบริษัทใหม่

เริ่มต้นด้วยขนส่งอาหารก่อน

แม้ Senko จะมีความเชี่ยวชาญในการขนส่งในหลายธุรกิจ แต่ M-SENKO จะเริ่มต้นที่การจัดส่งอาหารก่อน เพราะเป็นสิ่งที่ MK ถนัด และตลาดนี้ยังไม่มีผู้เล่นใหญ่ในตลาด ก่อนที่จะขยายไปธุรกิจ Non-food ในอนาคต

มีการลงทุน 1,000 ล้านบาทในการสร้างคลังสินค้าที่ถนนบางนาตราด กม. 21 พื้นที่ 33 ไร่ โดยมีการใช้ระบบ Automatic ที่จะช่วยทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“MK มีสายพานผลิตอาหารอยู่แล้ว มีความเชี่ยวชาญในการจัดส่งทั่วประเทศ ทาง Senko จึงเห็นว่ามีความพร้อมในตลาดนี้ อีกทั้งยังได้ Know How ขั้นสูงในเรื่องโลจิสติกส์ และหาลูกค้าใหม่ๆ มาให้ ซึง่จะเริ่มจากลูกค้าบริษัทญี่ปุ่น และค่อยขยายไปกลุ่มอื่นในอนาคต

ใน 1-3 ปีแรกจะเน้นในธุรกิจ B2B ก่อน เป็นกลุ่มอาหาร และขยายไปกลุ่มอื่นๆ อย่างค้าปลีก ตอนนี้ได้มีการพูดคุยกับลูกค้า 7-8 รายแล้วเป็นลูกค้าบริษัทญี่ปุ่นทั้งหมด

ธุรกิจโลจิสติกส์ของ MK ก็จะโยกมาที่ M-SENKO ทั้งหมด ปัจจุบันมีพนักงาน 500 คน มีหน่วยรถ 150 คัน ครอบคลุมทั้งรถปิ๊กอัพ รถ 6 ล้อ และรถ 10 ล้อ มีรถที่แบ่งตามอุณหภูมิแบบ Dry, อุณภูมิ 0-10 องศา และแช่แข็ง คาดว่าจะเพิ่มหน่วยรถอีก 20 คันในเฟสแรก

ตั้งเป้ารายได้ 800 ล้านบาทภายในปี 2562 และเพิ่มเป็น 1,800 ล้านบาทภายใน 3 ปี

ทำไม MK ต้องรุกตลาดโลจิสติกส์

ความน่าสนใจของธุรกิจที่ทำให้ MK ลงมาลุยตลาดนี้เต็มสูบ

  1. ตลาดโลจิสติกส์มีขนาดใหญ่ด้วยมูลค่าหลักแสนล้านบาทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี
  2. มีผู้เล่นในตลาดเยอะกว่า 20 แบรนด์ เป็นแบรนด์ใหญ่ 10 แบรนด์ แต่ไม่มีผู้นำตลาดชัดแจน และส่วนใหญ่มีการโฟกัสเป็นบริการไป เช่น ขนส่งอย่างเดียว หรือคลังสินค้าอย่างเดียว
  3. ทำให้ M-SENKO ชูดจุดเด่นเรื่องการให้บริการครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น
  4. ยังไม่ค่อยมีผู้เล่นโลจิสติกส์ในการส่งอาหารมากนัก

สรุป

ถือเป็นการทรานฟอร์มอีกอย่างหนึ่งของ MK ในการขยายสู่ธุรกิจใหม่ อาศัยความชำนาญที่ตนเองมีอยู่ และจับมือกับพันธมิตรในการเสริมแกร่ง ซึ่งตลาดนี้ยังมีการเติบโตอีกมาก เพราะยุคนี้ต้องอาศัยการจัดส่งสินค้าเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทั้งสิ้น

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา