ผลสำรวจชี้ คนรุ่นใหม่ 84% ชอบทำงานไปเรื่อยๆ หวังเก็บเงินไว้ลาพักร้อนยาวๆ ไม่รีบเกษียณ 

การทำงานในยุคปัจจุบันปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในบางองค์กรพนักงานส่วนมากของบริษัทเป็นคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคน Millennials ซึ่งมีความต้องการที่ต่างจากคน Gen X และ Baby Boomer โดยเฉพาะแนวคิดการทำงาน

กลุ่มคน Gen X และ Baby Boomer ต้องการงานที่มีความมั่นคงสูง รีบเก็บเงินเพื่อเกษียณอายุให้เร็วที่สุด แต่ในขณะที่การศึกษาของ ManpowerGroup พบว่า คนกลุ่ม Millennials กว่า 84% ต้องการลาพักร้อนมากกว่า 4 สัปดาห์ขึ้นไปเพื่อท่องเที่ยว ส่วนการวางแผนเพื่อเกษียณอายุของคนกลุ่ม Millennials ยังต่างจากคน Gen X และ Baby Boomer มาก คือ

  • มากกว่า 50% ต้องการเกษียณตอนอายุ 65 ปีขึ้นไป
  • 27% ต้องการเกษียณตอนอายุ 70 ปี
  • และกว่า 12% ไม่ได้คิดเรื่องเกษียณ แต่อยากทำงานไปเรื่อยๆ จนตาย
การลาพักร้อนระยะยาวเป็นเป้าหมายอย่างหนึ่งของคนกลุ่ม Millennials ภาพจาก pixabay.com

บริษัทใหม่ๆ ในปัจจุบันมีวัฒนธรรมการทำงานที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เหมาะกับคนกลุ่ม Millennials โดยเฉพาะรูปแบบการลาพักร้อนที่มีความอิสระมากกว่า โดยส่วนใหญ่แล้วคนกลุ่ม Millennials จะเริ่มลาพักร้อนระยะยาวมากกว่า 4 สัปดาห์ หลังจากทำงานไปได้ 10 ปี เนื่องจากเริ่มมีเงินเดือนที่สูง และใช้หนี้เพื่อการศึกษาไปหมดแล้ว

ข้อดีของการลาพักร้อนระยะยาว แน่นอนว่าฝ่ายที่ได้รับประโยชน์แบบไม่ต้องคิดเลยคือพนักงาน ดังนี้

ช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ การลาพักร้อนเป็นการทำให้ร่างกายได้พักผ่อน ลดความเครียด ความวิตกกังวลจากการทำงาน ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอนหลับได้สนิทขึ้น รวมถึงช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ด้วย

ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในครอบครัว จากการศึกษาของ Arizona Department of Health and Human Services พบว่า ผู้หญิงที่ลาพักร้อนจะมีความพึงพอใจกับคู่แต่งงานของตัวเองมากกว่าเดิม

บรรยากาศการทำงานที่ยืดหยุ่น จะช่วยดึงดูดคนกลุ่ม Millennials ให้อยู่กับบริษัทได้ ภาพจาก pixabay.com

ช่วยลดความเสี่ยงที่จะหมดไฟ การลาพักร้อนเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการใช้ชีวิต ได้ชาร์จพลังให้กับตัวเองหลังจากทำงานมานาน จากเดิมที่ต้องทำงานตลอดเวลา เจอกับความเครียด ความกดดันเป็นประจำ ทำให้เกิดภาวะหมดไฟในที่สุด แต่การลาพักร้อนทำให้เกิดการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ช่วยเปิดโลกกว้างจากการเดินทางท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ ช่วยลดความเสี่ยงที่จะเจอกับภาวะหมดไฟได้

แค่วางแผนก็มีความสุขแล้ว ก่อนที่จะลาพักร้อนได้เราต้องมีการวางแผนเสียก่อน ว่าจะเดินทางไปที่ประเทศอะไร ไปจังหวัดไหน มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง เพียงแค่ขั้นตอนวางแผนก็ช่วยให้คุณสามารถผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว

การให้อิสระกับพนักงาน เป็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย

แม้ว่าในมุมของบริษัทคงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอนหากมีพนักงานใช้สิทธิลาพักร้อนระยะยาวบ่อยๆ เพราะจะขาดคนทำงาน แต่คนกลุ่ม Millennials กลับรู้สึกว่าถ้าบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ไม่อนุญาตให้ลาพักร้อนระยะยาว การหางานใหม่ที่มีความยืดหยุ่น มีอิสระในการทำงานอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะปัจจุบันมีบริษัทที่ให้อิสระกับพนักงานจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ในความจริงแล้ว การที่บริษัทอนุญาตให้พนักงานลาพักร้อนระยะยาวก็มีผลดีต่อตัวบริษัทเช่นเดียวกัน คือ สามารถเปิดโอกาสให้พนักงานคนอื่นในทีมที่มีความสามารถ ได้ทดลองขึ้นมาทำงานแทนเป็นการพัฒนาทักษะให้กับพนักงานคนอื่นไปได้ในตัว และยังสามารถใช้โอกาสนี้ในการทดสอบความสามารถของพนักงาน หาช่องทางใหม่ๆ ในการทำธุรกิจ ที่มีความเหมาะสมกับความสามารถของพนักงานได้อีกด้วย เป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานเดิมได้เติบโต ไม่เกิดปัญหาสมองไหลออกไปนอกองค์กร

ในระยะยาวบริษัทที่สร้างความอิสระในการทำงานให้กับพนักงาน เช่น การไม่กำหนดจำนวนวันลาพักร้อน มีวันหยุดกรณีพิเศษสำหรับช่วงเวลาสำคัญในชีวิตพนักงาน และการให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ (Work From Home) จะเป็นการช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ทำให้พนักงานอยู่ทำงานกับบริษัทได้นานขึ้น การฝึกอบรม การพัฒนาพนักงานจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการดึงคนเก่งให้ยังอยู่กับริษัทต่อไปได้

ที่มา – forbes, recruitment-international, allinahealth

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา