ครั้งแรกของมาสด้า และของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น ที่คนไทยนั่งตำแหน่งประธานบริหาร

13987904_10153616404291020_1296743330_o

ประเทศไทยเป็นทั้งฐานการผลิตและตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นที่ใหญ่มากของโลก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมองไปทุกบริษัท จะมีประธาน หรือเบอร์ 1 ขององค์กรเป็นคนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ เพราะเรื่องการควบคุมดูแลระดับนโยบายจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น ให้คนญี่ปุ่นดูแลน่าจะดีที่สุด และคนไทยจะทำหน้าที่ด้านการตลาดเป็นหลัก

แต่วันนี้ มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ได้แต่งตั้ง ชาญชัย ตระการอุดมสุข เป็นประธานบริหารคนไทยคนแรกของมาสด้า และคนแรกของบริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่นทั้งหมด พูดได้ว่านี่คือ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แน่นอนว่า มาสด้า มีนโยบายชัดเจน ที่จะส่งผ่านการบริหารให้กับคนท้องถิ่น เพราะรู้ว่าเข้าใจตลาดและผู้บริโภคได้ดี

Mr. Chanchai Trakarnudomsuk_3
ชาญชัย ตระการอุดมสุข

สร้างแบรนด์ สร้างความเชื่อมั่น ความท้าทายของประธานบริหารคนใหม่

ประธานบริหารคนใหม่ของมาสด้า บอกว่า การรับตำแหน่งประธานบริหาร แสดงว่าได้รับความไว้วางใจ แต่ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสิ่งที่เป็นความท้าทายคือ การสร้างแบรนด์มาสด้า ให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นการสานต่องานที่ทำอยู่แล้ว และต้อง Feed Back ความต้องการของผู้ใช้ในไทยกลับไปญี่ปุ่น

อีกส่วนที่สำคัญเช่นกันคือ การสร้างความเชื่อมั่นทั้งต่อผู้บริโภค และต่อบริษัทแม่ที่มาสด้า ว่าคนไทยสามารถบริหารงานได้ดี สร้างการเติบโตทางธุรกิจได้เช่นกัน ซึ่งครึ่งปีหลังนี้จะค่อยๆ เห็นผลในทันที

สำหรับภารกิจแรกที่ต้องเร่งทำคือ การยกระดับบริการหลังการขายให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมา มาสด้าทำยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้ดี มีส่วนแบ่งเป็นอันดับ 3 ในตลาด ดังนั้นต้องเร่งเพิ่มการให้บริการลูกค้าเพื่อรองรับจำนวนรถที่มากขึ้น  ซึ่งต้องทำพร้อมกับการลงทุนปรับปรุงศูนย์บริการใหม่

01_mazda_upcoming_mazda2.ts.1501091421576870

พร้อมลุยงานด้วย 6 เป้าหมาย นำมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย

ชาญชัย เตรียมเป้าหมายในการดำเนินงาน 6 ข้อ ได้แก่

  1. การสร้างแบรนด์เพื่อให้เป็นแบรนด์หนึ่งเดียวที่ถูกเลือก นั่นคือการพัฒนาคุณค่าของแบรนด์ในทุกๆ ด้านที่ลูกค้าสามารถรับรู้ได้ ทั้งด้านความรู้สึกที่ได้รับและการตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพื่อรองรับการเติบโตจากความนิยมของรถยนต์มาสด้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  2. มุ่งเน้นเรื่องการดูแลลูกค้าตลอดระยะเวลาการครอบครองรถยนต์มาสด้าอย่างดีที่สุด เพื่อสร้างความผูกพันกันในระยะยาว ความพึงพอใจของลูกค้า คือ สิ่งที่เราให้ความสำคัญ “Customer Care”
  3. การทำงานแบบไร้รอยต่อทั้งในทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนของการขาย การบริการหลังการขาย ภาคการผลิต รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายเพื่อจะได้นำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เป็น “One Mazda One Team” ที่ทุกคนล้วนแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน
  4. การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยในทุกๆ ปี เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดและนำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าของเรา “Product and Technology Enhancement” ที่มีคุณภาพและมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก “Global Platform Global Standard”
  5. การขยายและพัฒนาศักยภาพของเครือข่ายผู้จำหน่าย โดยเน้นการพัฒนาเชิงคุณภาพตลอดเวลากับการสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุมการดูแลลูกค้า Dealer Network Qualitative Growth and Coverage
  6. การผลักดันให้ผู้บริหารคนไทยและพนักงานทุกคนที่เป็นผู้มีความชำนาญและประสบการณ์ในการทำงาน มีความเข้าใจในตลาด และเข้าใจความต้องการของลูกค้าคนไทย ได้มีโอกาสบริการจัดการอย่างเต็มที่ในทุกๆ ฟังก์ชั่น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดต่อลูกค้า “Optimize Global and Local Initiatives, Empower local Thai Management Team”

mazdacx3

สรุป

การแต่งตั้งคนไทยขึ้นมานั่งประธานบริหารของมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ไม่ได้มีนัยสำคัญอื่นใด นอกจากนโยบายที่อยากให้คนท้องถิ่นขึ้นมาบริหารจัดการตลาดภายในที่เข้าใจอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยก็ต้องมีผู้บริหารระดับสูงคนญี่ปุ่นที่คอยดูแลอยู่ด้วย ซึ่งมี อัสสึชิ ยาซูโมโต รองประธานบริหาร คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ เชื่อว่า มาสด้า ซึ่งที่ผ่านมา มียอดขายที่ดี จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตไว้ได้

มาสด้า เองก็มองเห็นจุดอ่อนคือ การให้บริการหลังการขาย ซึ่งไม่ใช่ว่าทำได้ไม่ดี แต่ต้องทำให้ดีขึ้น ยิ่งมีคนใช้รถมาสด้ามากขึ้น ศูนย์บริการต้องพร้อมเสมอ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา