ถอดความสำเร็จ LINE TV หลังพาร์ทเนอร์ถูกคน-กลยุทธ์ชัด ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งแพลตฟอร์มดูย้อนหลัง

LINE TV เป็นอีกแพลตฟอร์มรับชมความบันเทิงที่ถูกจับตามอง หลังสามารถเป็นพาร์ทเนอร์กับช่องดิจิทัลยักษ์ใหญ่ และผู้ผลิตรายการที่หลากหลายรวมกว่า 160 ราย ผ่านการใช้ฐานผู้ใช้ LINE กว่า 40 ล้านคนเป็นตัวดึงดูด

บริการ LINE TV
บริการ LINE TV

บริการฟรี-ไม่ UGC แต่เลือก Content ดีมาให้

แนวคิดเรื่องให้บริการฟรี และไม่ได้เหมือนคู่แข่งอย่าง YouTube ที่ใช้พลัง UGC (User Generated Content) หรือการให้ผู้ใช้บริการในระบบ Upload ไฟล์วีดีโอเข้ามาเอง คือสิ่งที่ LINE TV ใช้มาตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2557 หรือเกือบ 4 ปีแล้ว เพราะตั้งใจเป็นแพลตฟอร์มรวมความบันเทิงที่บริษัทเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาให้รับชม

โดยตอนนั้น LINE TV ใช้การดึงรายการจากประเทศเกาหลีที่หาชมจากที่ไหนไม่ได้มาให้รับชมแบบ Exclusive ก่อน แต่ปัจจุบันด้วยจำนวนผู้ใช้ LINE ในประเทศไทยที่มีกว่า 40 ล้านคน กลายเป็นแต้มต่อที่ดีในการไปคุยกับผู้ผลิตรายการในประเทศไทยให้นำรายการต่างๆ มาแพร่ภาพย้อนหลังบน LINE TV บ้าง

ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไปด้วยดี เพราะมีตั้งแต่ Net Idol ที่เข้ามาผลิตรายการให้ ไล่ไปจนถึงช่องทีวีดิจิทัลยักษ์ใหญ่ทั้งช่อง 3, 9 และช่อง ONE เข้ามาฉายรายการย้อนหลัง บ้างก็ทำรายการแบบ Original Content (ร่วมกันผลิตเพื่อแพร่ภาพบน LINE TV เท่านั้น) รวมๆ ทั้งหมดกว่า 160 รายแล้ว

การรับชม LINE TV ในประเทศไทย

โทรทัศน์ไม่หายไป แต่จะโตไปพร้อม Online

อริยะ พนมยงค์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ LINE เล่าให้ฟังว่า แม้ LINE TV จะเติบโตอย่างรวดเร็วผ่านจำนวนผู้ใช้กว่า 20 ล้านคน พร้อมกับเป็นเบอร์หนึ่งเรื่องการรับชมรายการย้อนหลังด้วยค่าเฉลี่ยการรับชมสูงถึง 176 นาที/คน/วัน แต่ตัวธุรกิจก็จะเติบโตไม่ได้ ถ้าไม่มีเนื้อหารายการดีๆ จากผู้ผลิตรายอื่นในตลาด

“ผมไม่เคยคิดว่าโทรทัศน์มันจะหายไป และมันก็ไม่โดน Cannibalize จากฝั่ง Online ด้วย แต่มันจะเติบโตไปพร้อมๆ ทั้งสองฝั่ง และตอนนี้เราก็มีตัวเลขที่พิสูจน์ว่ามันส่งเสริมกันอย่างชัดเจน เช่นหากกระแสในโทรทัศน์ปกติดี บน LINE TV ก็มียอดรับชมย้อนหลังที่มากไม่แพ้กันด้วย”

ในทางกลับกันถีง LINE TV ปัจจุบันสามารถให้บริการรับชมแบบ Live Streaming ไปพร้อมกับช่องโทรทัศน์ได้ แต่ทาง LINE ขอยังไม่เน้นเรื่องนี้นัก เพราะมองว่า Live เป็นการสร้างการรับรู้ (Awearness) คล้ายกับการทำการตลาดด้วย Sticker หรืออื่นๆ มากกว่า ซึ่งแตกต่างกับการรับชมย้อนหลังที่จะค่อนข้างยั่งยืนในระยะยาว

ช่อง One ที่มีสถานีเฉพาะบน LINE TV พร้อมละคร เรือนเบญจพิษ
ช่อง One ที่มีสถานีเฉพาะบน LINE TV

ช่อง ONE กับพาร์ทเนอร์ระยะยาวรายใหม่

สำหรับรูปแบบธุรกิจของ LINE TV หลักๆ ก็มาจากค่าโฆษณาที่แทรกอยู่ตามวีดีโอที่อยู่ในแพลตฟอร์ม ดังนั้นการจับมือกับผู้ผลิตรายการไทย เพื่อแพร่ภาพสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคจึงเป็นเรื่องจำเป็นอันดับแรก และรายล่าสุดที่จรดปากกาเซ็นกับ LINE TV คือ “ช่อง One” ที่บริหารโดย “ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของที่นั่น

ซึ่งบิ๊กบอสในวงการละครไทยมองดีลนี้ว่า เป็นการเปิดตลาดไปสู่ผู้ชมกลุ่มใหม่ ที่ส่วนใหญ่ค่อนข้างมีความคิดนอกกรอบ และไม่ติดกับความ Traditional เท่าไรนัก จึงเป็นการวัดผลในการทำรายการอีกแง่หนึ่ง ประกอบกับกลายเป็นความท้าทายของบริษัทในการทำเนื้อหาให้โดนใจผู้ชมกลุ่มนั้นโดยเฉพาะ

ทั้งนี้ทางช่อง One เซ็นสัญญากับ LINE TV เป็นเวลา 1 ปี เพื่อนำละครหลังข่าว และซิทคอมมาฉายย้อนหลังแบบ Exclusive Rerun เป็นระยะเวลา 30 วัน เช่นเรื่อง “ล่า” และร่วมกันสร้าง Original Content อีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จจากซิทคอมเรื่อง “เป็นต่อ Uncensored Pool Party พี่ไม่ลืม” ที่มียอดรับชมรวมกันหลายล้าน

สรุป

ในวงการโทรทัศน์ตอนนี้ การลองผิดลองถูกถือเป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุด เพราะพฤติกรรมผู้ชมนั้นเปลี่ยนไปมาก และการลองผิดลองถูกให้รู้ก่อนว่าผู้ชมขณะนั้นชอบอะไร ก็จะสร้างความได้เปรียบให้กับธุรกิจได้ และ LINE TV ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ผู้ผลิตจะมาลองผิดลองถูกกัน คล้ายกับกรณีของ YouTube ที่เคยทำมาแล้วด้วย

อย่างไรก็ตามการฉายย้อนหลังของช่อง One บน LINE TV นั้นแตกต่างกับช่อง 3 ที่ทิ้งให้รอ 48 ชม. เพราะล่นเวลาเหลือเพียงไม่กี่ชม. หลังละครจบ ก็จะเอาขึ้นแพร่ภาพทันที ทำให้คนที่พลาดรายการไป สามารถรับชมได้อย่างต่อเนื่อง และทันท่วงทีกับกระแสนิยม ส่วนเรื่อง Exclusive Content นั้นก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่เรื่อง I HATE YOU I LOVE YOU มาแล้ว และปีนี้ก็คงเห็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จอีก

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา