หรือว่าทำเองไม่เวิร์ค? “ช่อง 3” ผูกปิ่นโต LINE TV ฉายละครย้อนหลัง-ปั้น Exclusive Content

เมื่อ Online เข้ามามีบทบาทกับการรับชมโทรทัศน์ของผู้บริโภคมากกว่าเดิม จึงไม่แปลกที่กลุ่มทีวีดิจิทัลต้องวิ่งไปหาช่องทางดังกล่าวเพื่อคงฐานคนดูเอาไว้ ซึ่ง “ช่อง 3” ก็ทำเองมาระดับหนึ่งแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่รอดที่ต้องมาพึ่งคนอื่น

ประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท บมจ.บีอีซี เวิลด์ และ อริยะ พนมยงค์ กรรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย

กลยุทธ์ช่อง 3 ที่ไม่แข็งเหมือนคู่อริ

ก่อนหน้าจะมีทีวีดิจิทัล การให้บริการรับชมบนโลกออนไลน์ของกลุ่มฟรีทีวีดั้งเดิมก็มีอยู่แล้ว อย่างช่อง 3 และช่อง 7 เองก็มีแพร่ภาพในแพลตฟอร์มตัวเองที่สร้างขึ้นมา เช่นทางเว็บไซต์ของทางช่องเอง แต่ก็สามารถรับชมได้จากแพลตฟอร์มอื่นบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Content ละเมิดลิขสิทธิ์

แต่อาจเพราะการโปรโมทที่ไม่แข็งพอ ประกอบกับมาตรการที่ไม่เข้มงวดบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ทำให้การนำ Content มาแพร่ภาพบนแพลตฟอร์มตัวเองของช่อง 3 กลับไม่ได้เป็นที่นิยมเท่าช่อง 7 ที่ลงทุนสร้างแพลตฟอร์มใหม่ของตัวเองในชื่อ Bugaboo TV ขึ้นมา แถมยังแทบหาละครจากทางช่องไม่ได้บนแพลตฟอร์มรับชมวีดีโออื่นๆ เลยด้วย

ยิ่งปัจจุบันช่อง 3 ยังไม่ลดความพยายามด้วยการปั้นแพลตฟอร์มตัวเองในชื่อ Mello ออกมาบ้าง แต่สุดท้ายก็ยังไม่ถึงไหนนัก และเตรียมยกเครื่องใหม่พร้อมให้บริการอย่างเป็นทางการเดือนมี.ค. ทำให้ช่องน้อยสีตัดสินใจพึ่งพาร์ทเนอร์อย่าง LINE เพื่อเดินหน้ารุก Online อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น

LINE TV อีกหนึ่งจิ๊กซอว์ของ Online

โดยล่าสุดช่อง 3 เลือกยิงละครย้อนหลังบนแพลตฟอร์ม LINE TV เพิ่มเติม หลังจากเคยทำแบบนี้กับ YouTube มาแล้ว และที่เลือกมีช่องทางใหม่ ก็เพราะกลุ่มผู้ชมของ LINE TV นั้นส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้ช่วยเปิดโอกาสเพิ่ม Eyeball ที่ไม่ใช่คนที่รับชมละครช่อง 3 กลุ่มเดิมๆ ได้ด้วย

ประชุม มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท บมจ.บีอีซี เวิลด์ เล่าให้ฟังว่า การเข้ามาร่วมกับ LINE TV ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแพลตฟอร์มรับชมละครย้อนหลังที่ดีมีผู้ชมมากที่สุด ผ่านระยะเวลาเฉลี่ยที่ 176 นาที/คน/วัน

“หลังจากละครแพร่ภาพทางโทรทัศน์ไปแล้ว 48 ชม. เราจะเอามาฉายย้อนหลังให้ชมทาง LINE TV และยังมีรายการข่าว รวมถึงเพลงละครก็จะเอามาลงใน LINE TV เช่นกัน ส่วนในแง่รายได้ ตอนนี้เรา Cross ทีมขายระหว่างเรากับ LINE แล้ว โดยเราเองสามารถขายเป็นแพ็คเกจ Online-Offline เพื่อทำตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น”

อนาคตเตรียมมี Exclusive Content

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของพาร์ทเนอร์ระหว่างช่อง 3 กับ LINE เท่านั้น เพราะหลังจากนี้จะมีการทำ Marketing ต่างๆ ร่วมกันมากขึ้น เช่นทำ Sticker ที่สำคัญยังมีแผนทำ Exclusive Content ร่วมกันอีกด้วย เพื่อสร้างความแตกต่างให้ชัดเจนในการทำตลาดบนโลก Online

ในทางกลับกันการแพร่ภาพแบบ Simulcast หรือออกอากาศคู่ขนานบนแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ ทางช่อง 3 ยังไม่มีแผนในตอนนี้ แต่ได้ทำแล้วในแพลตฟอร์มตัวเอง  โดยหากไล่เวลาบนโลก Online จะเป็น ฉายสดบนแพลตฟอร์มตัวเองเช่น เว็บไซต์ช่อง 3 ถัดมาคือฉายย้อนหลังบนแพลตฟอร์มตัวเองตอนเที่ยงคืน

ก่อนปิดด้วยฉายย้อนหลังบนแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์หลังจากนั้น 48 ชม. โดยหลายคนอาจมองว่าช้า ซึ่งทางช่อง 3 ก็เตรียมหารือเรื่องนี้แล้ว พร้อมกับเตรียมแก้ไขโดยเร็วหากมันช้าเกินไป แต่ถึงอย่างไรเกมนี้ก็คงต้องดูกันยาวๆ เพราะ LINE TV ไม่ได้จับมือกับช่อง 3 รายเดียว เพราะเร็วๆ นี้จะจับมือกับช่อง ONE ด้วย

สรุป

ถือเป็นการแทงกั๊กของ 3 ก็ว่าได้ เพราะส่วนตัวคิดว่าทางช่องน่าจะหวง Content ของตัวเองมาก รวมถึงหวงรายได้ที่จะเกิดขึ้นด้วย จึงให้ความสำคัญกับแพลตฟอร์มของตัวเองมากกว่า และหากยังเป็นอย่างนี้อยู่ ช่อง 3 ก็คงยังอยู่ในโลกเก่า และพัฒนาตามโลกดิจิทัลไม่ทันแน่ๆ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา