ท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาบูม ส่งผลให้ร้านอาหารต่างๆ ตามย่านท่องเที่ยวมีราคาสูงขึ้นไปด้วย

ท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาบูม อาหารตามย่านท่องเที่ยวก็แพงขึ้นตามไปด้วย ค่าเงินอ่อนแรงก็ยิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไหลเข้าประเทศมากขึ้น

ตัวอย่างจากข้าวหน้าปลาดิบแถว Toyosu Senkyaku Banrai ซึ่งเป็นย่าน Shopping complex แห่งใหม่ในโตเกียว ใกล้กับตลาดปลา สามารถทำข้าวหน้าปลาดิบ หรือหน้าซีฟู้ดสดๆ ได้เลย ราคาอยู่ที่ 46.52 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,668 บาท ขณะที่ข้าวหน้าปลาดิบทั่วไปที่ไม่ใช่ย่านท่องเที่ยว แม้มีคุณภาพลดลงเล็กน้อย จะมีราคาอยู่ที่ 1,000-1,500 เยน หรือประมาณ 238-358 บาท

Japan

องค์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นระบุว่า เดือนมกราคมที่ผ่านมา มีคนมาเยือนญี่ปุ่นมากถึง 2.69 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 80% เทียบเท่ากับช่วงก่อนโควิดระบาดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ เงินเยนร่วงลงไปที่ 150 เยนต่อ 1 เหรียญสหรัฐ ถือว่าเป็นอัตราแลกเปลี่ยนที่ใกล้เคียงกับช่วงทศวรรษ 1990

ส่งผลให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนอเมริกันและประเทศอื่นๆ เนื่องจากมีค่าเงินที่แข็งกว่า ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ในช่วงยุคหลังโควิดระบาด การท่องเที่ยวญี่ปุ่นจึงได้รับความนิยมอย่างมหาศาล ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ ต่างประสบปัญหากับการรับมือลูกค้าที่ล้นหลาม แม้ความต้องการท่องเที่ยวจากภายนอกประเทศจะมากล้น แต่ค่าแรงภายในประเทศกลับไม่ขยับ ซ้ำเศรษฐกิจยังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอยในเชิงเทคนิคมาตั้งแต่ปลายปี 2023 ที่ผ่านมา

ด้าน Atsushi Takeda หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Itochu Research Institute Inc. ระบุว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นไม่สามารถเท่าทันราคาที่สูงขึ้นได้ แต่ก็มีโอกาสที่ราคาที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ผู้บริโภคต้องหาทางหาค่าจ้างที่สูงขึ้นและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่าย ซึ่งการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวโดยรวมในปี 2023 ที่ผ่านมามีมูลค่า 5.3 ล้านล้านเยนหรือประมาณ 1.26 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 10% เมื่อเทียบกับผลรวมของปี 2019 ก่อนที่โควิดจะระบาด

ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อคนเพิ่มขึ้นเกือบ 34% อยู่ที่ 2.12 แสนเยนหรือประมาณ 50,000 กว่าบาท ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่ไหลเข้าญี่ปุ่นเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา มีมากถึง 25 ล้านราย ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนถึง 32 ล้านคน

Japan

ด้วยกำลังในการใช้จ่ายที่ล้นทะลักเข้าประเทศระดับนี้ ส่งผลให้ราคาสินค้าต่างๆ ในท้องถิ่นพุ่งขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวอย่างจากที่สกีรีสอร์ท Niseko Tokyu Grand Hirafu ในฮอกไกโด เกาะทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่นก็มีราคาข้าวหน้าปลาไหลอยู่ที่ 3,500 เยนหรือประมาณ 800 กว่าบาท ขณะที่ไก่ย่างยาคิโทริมีราคาอยู่ที่ 2,000 เยนหรือประมาณ 470 กว่าบาท เป็นต้น เรื่องนี้ Naoya Hayakawa เจ้าของร้านแห่งหนึ่งให้ความเห็นว่า เธอต้องขายราคาระดับนี้เพื่อให้มันครอบคลุมต้นทุน ซึ่ง 95% ที่เป็นลูกค้าของเธอส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ

Lu Dong ผู้ก่อตั้ง TakeMe Co. บริการจ่ายเงินและจองร้านอาหารให้ข้อมูลว่า เหล่านักท่องเที่ยวที่ไปเยือนญี่ปุ่น ต่างก็ต้องการโอบรับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่พวกเขาไม่สามารถหาได้จากบ้านเกิดของตัวเองกลับไป ความต้องการเหล่านี้ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกด้านอาหารและเครื่องดื่มในญี่ปุ่นขึ้นราคาสูงขึ้นมากถึง 50%

แม้ราคาอาหารจะสูงขึ้นมาก แต่ความต้องการที่จะเที่ยวญี่ปุ่นและทานอาหาร รวมทั้งใช้จ่ายภายในประเทศนี้ก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย เขายังให้คำแนะนำร้านอาหารในโอซากาว่า ให้ออกแบบเมนูอาหารสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในราคามากกว่า 20,000 เยนหรือประมาณ 4,700 กว่าบาท Yugo Fujimoto ห้วหน้าร้านกล่าวว่า สิ่งนี้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวด้วย

นอกจากนี้ ร้านค้าปลีกในย่าน Toyosu ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และสปา พบว่า ราว 60%-70% ของร้านต่างๆ ในย่านนี้ต่างขึ้นราคาสำหรับข้าวหน้าซีฟู้ดแก่นักท่องเที่ยว แม้ว่าพวกเขาจะเตรียมอาหารไว้มากถึง 300 มื้อต่อวัน แต่ก็พบว่า บางรายการก็ขายหมดก่อนบ่ายสองโมงด้วยซ้ำ ขณะที่นักท่องเที่ยวซึ่งเป็นลูกค้าของร้านอาหารย่านนั้น Alex Goldman ระบุว่า มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้ทานอาหารคุณภาพระดับนี้ในราคานี้ ที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา เขาบอกว่า เขาสามารถหาอาหารคุณภาพระดับนี้ในราคานี้ได้ที่นี่ และเขาจะกลับมาเที่ยวอีกแน่นอน

ที่มา – Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา