“กระจายความเสี่ยง” มุมมองการลงทุนปี 2020 จาก 3 บลจ. ดัง เน้นในปีหน้า

สรุปงานสัมมนาสำหรับลูกค้า Private Bank ของธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อที่จะเตรียมตัวในการลงทุนปีหน้า นอกจากนี้ยังมีมุมมองจาก 3 บลจ. ชื่อดังเช่น ภัทร กรุงศรี รวมไปถึงของทางไทยพาณิชย์ที่ให้มุมมองการลงทุนใหม่ๆ

Stock Board
ภาพจาก Shutterstock

ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดงานสัมมนา SCB Investment Forum 2019 ภายใต้คอนเซ็ปต์ Predict the Unpredictable 2020 ซึ่งเป็นการเตรียมตัวทางด้านความพร้อมเรื่องของการลงทุนเพื่อเข้าสู่ปี 2020 ซึ่งเป็นอีกปีที่ยังมีความไม่แน่นอนอีกปีหนึ่ง

Brand Inside รวบรวมมุมมองสำคัญๆ จาก 3 บลจ. ชื่อดัง รวมไปถึง CIO ของ SCB Private Bank ที่ให้มุมมองการลงทุนในปี 2020

SCB Private Bank มองว่าทำนายเรื่องอนาคตยาก

ศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลด้านการลงทุนและที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้บรรยายในหัวข้อ Secular Outlook and Way Forward โดยได้กล่าวว่า ทุกวันนี้เป็นเรื่องยากในการทำนายอนาคตมาก โดยทุกสิ่งทุกอย่างในเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็น

  • การค้าเสรีที่อดีตนั้นทุกคนยอมรับ แต่ปัจจุบันนี้คือทำอย่างไรที่ทำให้การค้าของประเทศนั้นๆ ประโยชน์สูงสุด
  • ประเทศต่างๆ ใช้นโยบายชาตินิยมเพิ่มมากขึ้น สาเหตุมาจากปัญหาของทุนนิยมที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ
  • Technology เข้ามา Disruption และจะเป็นยุคที่มีการใช้วัตถุน้อยลง เช่น Netflix เมื่อเทียบกับ Blocbuster ในอดีตที่ต้องมี DVD และ VCD หรือแม้แต่ Spotify ที่เข้ามาซึ่งไม่ต้องใช้ CD เหมือนอดีต
  • ในยุคนี้เราจะเห็นว่าสินทรัพย์สำคัญๆ ลดลง แต่ Productivity นั้นเพิ่มมากขึ้น ทำให้เราระวังและเห็นโอกาสใหม่ๆ เช่น ยุคนี้เราจะเห็น Uber กับ Grab ที่ไม่ต้องมีรถ แต่ก็ให้บริการได้
  • เราอยู่ในยุคที่อาจเห็นเศรษฐกิจโตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย ธนาคารกลางก็พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้นโยบายการเงินคือดอกเบี้ยติดลบ ทำให้การลงทุนแบบ Negative Yield จะเป็นเทรนด์ต่อไป
  • ในยุคดอกเบี้ยต่ำจะทำให้คนหาผลตอบแทนสูงขึ้น ส่งผลทำให้สินทรัพย์มีราคาสูงขึ้น นอกจากนี้สินทรัพย์ต่างๆ ยังมีผลตอบแทนลดลง จะเห็นจากผลตอบแทนหุ้นที่ลดลง

แล้วจะทำอะไรดี เมื่อดอกเบี้ยลดลง โดย ศรชัย ได้เน้นเรื่องของการจัดพอร์ตที่กระจายความเสี่ยง ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. ตราสารหนี้ สัดส่วน 7%
  2. Multi Asset  สัดส่วน 38%
    1. กองทุนผสม
    2. REIT หรือ กองทุนอสังหาฯ
    3. Global Asset Allocation
  3. หุ้น สัดส่วน 52%
    1. หุ้นไทย 26%
    2. หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว (เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ฯลฯ) 13%
    3. หุ้นจีน 7%
    4. หุ้นเวียดนาม 6%
  4. สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ สัดส่วน 3%
ภาพจาก Pixabay

บลจ. ไทยพาณิชย์ มองปีหน้าเศรษฐกิจชะลอตัวลงยาก

สำหรับการเสวนามุมมองการลงทุนในปี 2020 จาก 3 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน นั้นจะเริ่มต้นที่ ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ไทยพาณิชย์ ซึ่งมอง 3 ประเด็นสำคัญคือ เศรษฐกิจโตช้าลง ดอกเบี้ยนโยบายน่าจะทรงตัวหรือไม่ก็ลดดอกเบี้ย และเรื่องของเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า

ขณะที่สินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมของนักลงทุนไทยตอนนี้คือ กอง REIT (ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) ซึ่งที่มีกระแสเงินสดคงที่ และโดยเฉพาะในช่วงนี้นั้นกอง REIT ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เป็นที่นิยมมาก นอกจากนี้มุมมองของณรงค์ศักดิ์ยังมองว่า REIT มองว่าเหมือนกับตราสารหนี้ระยะยาว ซึ่งต้องใช้ความเข้าใจของผู้จัดการกองทุนด้วย

ณรงค์ศักดิ์ มองถึงว่าปี 2020 สินทรัพย์ทางเลือกได้รับความนิยม ซึ่งกอง REIT นั้นได้รับความนิยมมาก แต่เขาเองยังได้ย้ำว่าเราจะสามารถบริหารความเสี่ยงในเรื่องของราคาและพื้นฐานของกอง REIT ที่ลงทุนแต่ละตัวว่ากองไหนดีไม่ดี โดยกอง REIT แต่ละตัวนั้นมีสินทรัพย์ที่ไม่เหมือนกัน จึงต้องใช้ความรู้ความเข้าใจในการลงทุนไม่ว่าจะลงทุนเองหรือผ่านกองทุนอีกที นอกจากนี้เขาเองยังมองว่าตราสารหนี้ระยะสั้นไม่น่าลงทุน เนื่องจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ย

ขณะที่เรื่องของสงครามการค้านั้น ทรัมป์ต้องการได้รับการเลือกตั้งอีกรอบ ซึ่งอาจทำให้ทรัมป์อาจเปลี่ยนวิธีการตัดสินใจในการทำสงครามการค้า ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) นั้น ณรงค์ศักดิ์ มองว่า Fed อาจตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายอีก 2-3 รอบ ขณะที่เรื่องของเศรษฐกิจชะลอตัวนั้นเขาเองมองว่ายาก โดยเขาสมมติว่าถ้าหากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวจริงๆ กลุ่มประเทศที่จะชะลอตัวก่อนหน้านั้นจะคือยุโรป โดยเฉพาะเยอรมัน

สำหรับเรื่องของการลงทุนในปีหน้ายังมองว่ามีบริษัทน่าลงทุนอีกมาก นอกจากนี้ปี 2020 เขายังมองว่าเป็นโอกาสของกองทุนที่ผู้จัดการเลือกสินทรัพย์ลงทุน (Active Manager) นอกจากนี้เขายังมองว่าสินทรัพย์ยังมีราคาถูก ขณะที่ในประเทศไทยราคาไม่ถูกไม่แพง

บลจ. ภัทร เน้นทำใจและมีสติ แต่ต้องไม่หดหู่

ยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. ภัทร นั้นมองไม่ต่างกับทางด้านของ บลจ. ไทยพาณิชย์ แต่ทางด้านภัทรจะมองปีหน้าไปทางด้าน Defensive มากกว่าและกระจายการลงทุน เพราะว่าความไม่แน่นอนเยอะมากๆ เช่น เรื่องของ Brexit ฯลฯ โดยคำแนะนำของ ภัทร คือ ทำใจและมีสติแต่ต้องไม่หดหู่ เพราะทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ฉะนั้นเรื่องของความคาดหวังที่สูงในเรื่องผลตอบแทนนั้นจะต้องลดลง

ขณะที่มุมของความไม่แน่นอนเหล่านี้ต้องดูมุมมองใหม่ๆ ด้วย เช่น การเมือง ประวัติศาสตร์ ฯลฯ นอกจากนี้มุมมองของภัทรคือจะไม่พยายามฟันธงเรื่องของสถานการณ์ต่างๆ ออกไป นอกจากนี้จะตามดูตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ มากขึ้น เช่น REIT เมืองนอก หรือแนวทางการลงทุนใหม่ๆ มากขึ้น

นอกจากนี้ยุทธพล ยังได้เน้นให้กับกลุ่มลูกค้า Private Bank ว่าอย่าลืมมองถึงเรื่องสภาพคล่องด้วย

ภาพจาก Shutterstock

บลจ. กรุงศรี มองปีหน้าต้องกระจายการลงทุน

สุภาพร ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ. กรุงศรี มึมุมมองว่ามีเรื่องของสงครามการค้านั้นจะมีทางออกก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่มุมมองนักลงทุนนั้นไม่กล้าลงทุน แต่ในช่วงที่ผ่านมาสินทรัพย์เสี่ยงขึ้นหมด

สำหรับมุมมองของกรุงศรีในปีหน้าคือ กระจายความเสี่ยง และกระจายออกนอกประเทศไทย นอกจากนี้สุภาพร แนะนำว่าควรจะมีกองทุนประเภท Active Fund ด้วย ขณะที่มุมมองของกอง REIT นั้น สุภาพรมองกอง REIT ของไทย 2 ปีที่ผ่านมาราคาขึ้นมาแล้ว 50% เนื่องจากนักลงทุนได้หาผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก แต่ REIT ก็ยังน่าลงทุน แต่ต้องดูเรื่องอัตราดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญ

สุภาพร ยังมองถึงการ IPO ของกอง REIT ที่ผ่านมาว่าไม่ว่าจะเปิดขายกองทุนเองหรือแม้แต่เจ้าของสินทรัพย์นำกเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อระดมทุนก็มีคนซื้อตลอด 

นอกจากนี้ สุภาพร ยังเตือนให้ระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น แต่ก็ต้องลงทุนต่อไปแต่ต้องเน้นการกระจายความเสี่ยงด้วย

ผลสำรวจลูกค้า

  • มุมมองของลูกค้า Private Bank ได้ทำผลสำรวจว่าปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวนั้นมีโอกาสกี่ % โดยลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์มองว่ามีโอกาส 30% มากที่สุด
  • ขณะที่เรื่องของโอกาสที่ดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะติดลบเหมือนธนาคารกลางในทวีปยุโรปหรือไม่ในอนาคต ลูกค้า Private Bank เหล่านี้มองว่าไม่มีโอกาสมากถึง 76%
  • ขณะที่เรื่องของกอง REIT ยังน่าสนใจหรือไม่ ส่วนใหญ่ยังมองว่าน่าสนใจถึง 69%

สำหรับมุมมองการลงทุนหุ้นไทยจากมุมมองของ SCBS Wealth Research สามารถอ่านได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

mm
Content Writer ที่สนใจในเรื่องของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ กลุ่ม TMT (Technology, Media, Telecom) การควบรวมกิจการ (M&A) นโยบายทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ รวมถึงสิ่งละอันพันละน้อยทางธุรกิจที่น่าสนใจ