คุยกับน้าน้อย ร้านแว่นสยามซอย 3: ธุรกิจตัดแว่นเอาตัวรอด ผ่าวิกฤตโควิดยังไง?

โควิด-19 ระบาดยืดเยื้อยาวนาน ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น เสียชีวิตมากขึ้น ขณะเดียวกันธุรกิจหลากหลายสาขาต่างก็ปิดตัวลงบ้าง ระงับการดำเนินกิจการชั่วคราวบ้าง หลังทนพิษบาดแผลจากโควิดไม่ไหว รายน้อยรายย่อยรายใหญ่ต่างเจ็บตัวทั่วกัน วันนี้ Brand Inside พาไปคุยกับเจ้าของกิจการร้านแว่น วัดสายตาประกอบแว่น เขาประคองตัวเองให้อยู่รอดอย่างไร ขณะที่หลายรายเริ่มทยอยหายไปบ้างแล้ว

น้าน้อย รัชเศรษฐ์ โชติวุฒิอนันต์ ร้านแว่นสยามสแควร์ ซอย 3 (ร้านว่นี้ชื่อ ร้านแว่นน้าน้อยออพติค ปกติน้าน้อย เจ้าของร้านก็เรียกแทนตัวเองว่าน้าอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน คนที่มาใช้บริการละแวกนั้นก็มักเป็นคนหนุ่มสาว วัยมหา’ลัย วัยทำงาน เพราะทำเลอยู่ในสยามสแควร์ถือว่าใจกลางเมืองมีมหาวิทยาลัยหลายแห่ง มีสถานที่ทำงาน มีแหล่งชอปปิงมากมาย น้าน้อย หรือคำเรียกน้าน้อยว่า น้า จึงกลายเป็นชื่อเรียกที่คุ้นปากกันของผู้มาใช้บริการ

น้าน้อยเล่าวว่า เปิดร้านส่วนตัวมา 3 ปีกว่าแล้ว ก่อนหน้านั้นเป็นลูกน้องมายาวนานกว่า 20 ปี เริ่มทำแว่นมาตั้งแต่อายุ 19 ปี รู้สึกว่าตนเองเรียนไม่ค่อยดี สอบช่างไม่ได้ แต่อยากเป็นช่างเพราะช่างหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ น้าน้อยจึงบอกแม่ว่าอยากเรียนช่างแต่สอบไม่ติด ไม่รู้จะทำยังไง ปรากฏว่ารุ่นพี่มาทำงานร้านแว่น รุ่นพี่จึงชวนมาทำ บอกน้าน้อยว่าสบายนะ มีความรู้ด้วย น้าน้อยจึงมาสมัครและศึกษาจนสามารถเชื่อมไททาเนียมได้ (เชื่อมไททาเนียมคือการเอาวัสดุสองตัววิ่งหากันหรือเป็นการเชื่อมโลหะ ให้น้ำยาประสานของวัตถุสองอันวิ่งชนกัน มีน้ำยาประสานและลวดเชื่อมต่อเอง) น้าน้อยสามารถทำแว่นเองได้ ผลิตเองได้ ดัดแว่น แต่งทรง ทำได้หมดทุกอย่างที่เกี่ยวกับแว่น

ร้านแว่นน้าน้อยสยาม ซอย 3

ทำแว่นมา 20 กว่าปี ถึงจะเบื่อบ้าง แต่ก็รักอาชีพนี้ไปแล้ว

เขาใฝ่ฝันว่าอยากมีอะไรเป็นของตัวเอง ค่อยๆ ซื้อเครื่องมือเดือนละตัว สองตัว ทำมาเรื่อยๆ ศึกษามาตลอด อาศัยวิธีครูพักลักจำด้วย ฝึกฝนเรื่อยๆ จนมีวันนี้

สาเหตุที่น้าน้อยอยากเป็นช่างแว่น เขาบอกว่าเขามีทักษะด้านงานช่าง ทำได้หมดทุกอย่างเลย เก้าอี้ในร้านก็ทำเองได้ งานตกแต่งร้านน้าก็ทำเอง ถ้าให้เลือกช่างทุกสายที่น้าทำมา ถืว่าทำให้ดีสู้ทำแว่นไม่ได้ น้าเล่าว่าความรักของคนเราไม่เหมือนกัน น้ารักการเป็นช่าง ร้านนี้ทำเองภายในทั้งหมด ทั้งทำสี ขัดพื้นผนัง ทำเองหมด ทำได้เองหมดก็มีความรู้สึกภูมิใจ

น้าน้อยเล่าว่า ทำแว่นมา 20 กว่าปี ถ้าถามว่าเบื่อไหม แล้วพ่อแม่จะกินอะไรถ้าไม่ทำงาน จะขอเขากินเหรอ เราไม่ได้เกิดมาเป็นคนรวย ถามว่าเบื่อไหม เบื่อแสนเบื่อแต่ต้องทำ ถามตัวเองว่าเบื่อแล้วรักมันหรือไม่ ถ้ารักก็ทำให้ดี เวลาเบื่อก็พักผ่อน ไปขับรถมอเตอร์ไซค์เล่น ทำบุญบ้าง บริจาคบ้าง เพื่อให้คลายเครียด

ถ้ามาตัดแว่นกับน้า มีปัญหามาได้ตลอดชีวิต (ชีวิตของแว่น) สโลแกนร้านน้าที่น้าพูดถึงอยู่บ่อยๆ เพื่อจะการันตีว่า อย่างไรก็จะดูแลแว่นให้ตลอดอายุการใช้งาน

แว่นทรงหยดน้ำ ร้านแว่นน้าน้อยสยามซอย 3

ทรงหยดน้ำคือทรงแว่นที่คนชอบใส่ แบรนด์ที่ขายดีก็มีหลากหลาย มีแว่นตั้งแต่ราคาหลักพันถึงหลักหมื่น

แว่นที่คนชอบใส่คือทรงหยดน้ำ มีหลากหลายสีให้เลือกทั้งสีพิงค์โกลด์ สีเทา สีเงิน แล้วแต่โครงสร้างของหน้าถ้าผิวคล้ำให้ใช้สีเทา สีเงิน สีพิงค์โกลด์จะดูดีขึ้น สำหรับผู้ชายก็มีหลายทรงด้วยกัน มีทั้งทรง club master น้าน้อยเรียกว่าทรงสิบล้อ ทรงคลาสสิคสำหรับผู้หญิงคือทรงใหญ่ๆ แนววินเทจ

ไม่ได้มีแบรนด์ไหนขายดีที่สุด ส่วนใหญ่ขายได้เฉลี่ยๆ กันไป แบรนด์ที่แพงที่สุด ก็ไม่ค่อยแตกต่างกันมาก มีทั้งแบรนด์ Moscot, Rayband, Dior ซึ่งก็แล้วแต่รุ่นของแว่น แว่นถือเป็นสินค้าที่ฟุ่มเฟือยแต่จำเป็นต้องใช้ ถ้าดูตามช่วงวัย วัยรุ่นจะชอบทรงหยดน้ำ ชอบแบรนด์ Polo, Paul Hueman, Lee Cooper, Moscot ใช้งานนาน อายุแบรนด์ 100 กว่าปี ส่วนคนวัยอาวุโสจะชอบแว่นทรง Jeen Pucci ส่วนเด็กวัยมัธยมก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ว่าควรจะให้ลูกใส่แบบไหน

ร้านแว่นน้าน้อยสยามซอย 3
ร้านแว่นน้าน้อยสยามซอย 3
ร้านแว่นน้าน้อยสยามซอย 3

ถ้าแบ่งปัญหาสายตาตามช่วงวัย อายุ 12-26 มักจะสายตาสั้น สายตาเอียง แต่ถ้าอายุ 40 ขึ้นไปสายตายาว มีทั้งสายตายาวชั้นเดียว (มองอ่านหนังสือได้อย่างเดียว) สองชั้น (มองใกล้ มองไกลแต่มีรอยต่อ) สามชั้นหรือสามระยะคือระยะใกล้ ระยะกลาง ระยะไกลเป็นเลนส์ Progressive อยู่ในเลนส์เดียวกันแต่ไม่มีรอยต่อของตัวเลนส์ คนที่มาตัดแว่นส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคนคือวัย 20 กว่าถึง 30 กว่าปี คนสูงวัยจะตัดน้อยหน่อย จะมีลูกพามาตัดบ้าง

แว่นที่เลนส์มีรอยต่อ ร้านแว่นน้าน้อยสยามซอย 3

เลนส์ปกติที่ตัดกันส่วนใหญ่เป็นมัลติโค้ด (ตัดแสงสะท้อน) กันแสงสะท้อน กันรังสีคอมพิวเตอร์ ถ้าให้แนะนำแว่นที่ราคาถูกที่สุดในร้าน ก็คือแว่นพลาสติก ราคาประมาณพันกว่าบาท ส่วนแว่นที่ราคาสูงที่สุด เช่น Dior, Moscot ราคาหลักหมื่น

คุยกับลูกค้าร้านแว่น เปิดหาในเน็ตก็มีแต่คนแนะนำร้านนี้ ร้านน้าน้อยบริการเป็นกันเอง

จากการสัมภาษณ์ลูกค้า เขาเล่าว่า เพิ่งมาใช้บริการครั้งแรก อ่านรีวิวแล้วเจอ มีคนบอกร้านน้าบริการเป็นกันเอง แถวนี้เป็นย่านที่อยู่ใกล้ที่พักอาศัย หลังจากมาที่ร้านและใช้บริการก็พบว่า น้าเป็นกันเองจริงๆ เหมือนญาติเลือกแว่นให้ เพราะปกติเวลาตัดแว่น จะมีพ่อกับแม่คอยช่วยเลือกให้ เพราะมองไม่เห็นภาพว่าตัวเองเหมาะกับแว่นแบบไหน

บรรยากาศหลังโควิดระบาด ทำสยามสแควร์ทั้งย่านเงียบเหงา ซบเซา

โควิดระบาดแบบนี้ ธุรกิจร้านแว่นรับมืออย่างไร? โควิดระบาดก็กระทบกับร้านแว่นเช่นกัน ทำให้บรรยากาศเงียบไปหมด คนจะมาร้านก็จะต้องโทรนัดน้าก่อน แม้จะมีช่างอยู่ประจำแต่เขาก็ไม่อยากตัดกับช่าง เขาอยากมาหาน้าก็ต้องใช้วิธีโทรนัดก่อน จากเมื่อก่อนคนมาเต็มร้านตลอดทุกวันก็เหลือนัดเพียงวันละ 2-3 คน

น้าน้อยเล่าว่า บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบ แม้จะทำธุรกิจพอไปได้ แต่ก็ไม่ถึงกับดีมาก สำหรับคนที่ทำธุรกิจเหมือนกันคิดว่าต้องอดทน น้าน้อยมองว่าสภาวะโลกเป็นเช่นนี้ต้องยอมรับให้ได้ ธุรกิจมีขึ้น มีลง มีชะงักบ้าง ในส่วนของน้าก็ถือว่าขายได้น้อยลง คนที่มาตัดแว่นส่วนมากจะเป็นกันเองทุกคน เราคิดราคาที่เขาอยู่ได้ น้าอยู่ได้

ร้านแว่นน้าน้อยสยามซอย 3

ในส่วนของการทำแบรนด์ของตัวเอง น้ามองว่าเป็นช่างแว่นดีกว่าเพราะถนัดมากกว่า เคยคิดว่าจะทำแว่นกระดองเต่า แต่การทำแบรนด์ต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงต่อวันและค่อยมาร้าน การทำแว่นแต่ละอันต้องใช้เวลานาน ทั้งข้อต่อ บานพับ หลายอย่าง

ข้อคิดในการรักษาดวงตา

วิธีการรักษาเลนส์แว่นให้ใสอยู่เสมอ ต้องถอดด้วยซันไลน์ล้างจานเพราะขจัดคราบไขมันดีที่สุดและเช็ด ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยา อะไรก็ตามที่ขจัดคราบไขมัน ดีที่สุด ล้างด้วยสบู่ ครีมไม่ได้เพราะมันมีไขมันอยู่

สำหรับยุคนี้คนใส่แว่นเยอะกว่ายุคก่อน บางคนเปิดซีรีย์ดูทั้งคืน เพ่งตลอดเวลาก็ทำให้เสียสายตาได้ น้าพยายามบอกทุกคนว่าอย่าเพ่งอะไรนานๆ พักสายตาบ้าง ถ้าติดซีรีย์ก็ต้องพยายามใส่แว่นเยอะๆ น้าน้อยแนะนำว่า ถ้าออกแดดพยายามใส่แว่นกันแดด เล่นคอมพิวเตอร์ต้องเปิดไฟให้สว่าง อย่าเพ่ง อย่าใช้กล้ามเนื้อตาเป็นเวลานานๆ พยายามหลับตาบ้างหรือไปล้างหน้า พักสายตาบ้าง ช่วยได้ ถ้าเพ่งทั้งวันก็จะทำให้ลำบาก ความสำคัญของดวงตา สำคัญ 100%

ร้านแว่นน้าน้อยสยามสแควร์ ซอย 3

ถ้ามาตัดแว่นกับน้าน้อยก็สามารถติดตามได้ทาง Facebook page แว่นตาน้าน้อยสยาม ซอย 3 ที่ร้านเปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ 11.30น.ถึง 20.00น. หยุดเฉพาะช่วงสงกรานต์เท่านั้น มาหาน้าก็เจอน้า น้ารักลูกค้าทุกคน น้ารักอาชีพนี้ ดูแลตัวเองให้ปลอดจากโควิด-19 นะ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา