สงครามการค้าสไตล์ เมื่อฝรั่งเศสจะเก็บ “ภาษีดิจิทัล” ทรัมป์ไม่พอใจ จะเก็บ “ภาษีไวน์” เพื่อตอบโต้

BIARRITZ, FRANCE – AUGUST 25: France’s President Emmanuel Macron and US President Donald Trump pose for the media as they meet for the first working session of the G7 Summit on August 25, 2019 in Biarritz, France. The French southwestern seaside resort of Biarritz is hosting the 45th G7 summit from August 24 to 26. High on the agenda will be the climate emergency, the US-China trade war, Britain’s departure from the EU, and emergency talks on the Amazon wildfire crisis. (Photo by Jeff J Mitchell – Pool /Getty Images)

ภาษีดิจิทัล vs. ภาษีไวน์

เก็บตกจากการประชุม G7 ที่ประเทศฝรั่งเศสในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หนึ่งในประเด็นร้อนแรงซึ่งนำโดยเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสเตรียมออกกฎหมายเก็บภาษีดิจิทัล

โดยเนื้อหากฎหมายภาษีดิจิทัลตัวนี้คือ บริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติที่มีรายได้ทั่วโลกอย่างน้อย 750 ล้านยูโร และมีรายได้จากการให้บริการดิจิทัลในฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโฆษณา แพลตฟอร์ม หรืออีคอมเมิร์ซ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 25 ล้านยูโร จะต้องเสียภาษีจากรายได้ดิจิทัลเหล่านั้นให้กับฝรั่งเศสเป็นจำนวน 3%

แน่นอนว่า บริษัทไอทียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาอย่าง Apple, Facebook, Amazon และ Google จะถูกเรียกเก็บภาษีดิจิทัลในฝรั่งเศส

ด้านของโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีดิจิทัลดังกล่าวของฝรั่งเศส เขาเคยทวีตเอาไว้ว่า “ถ้าบริษัทไอทียักษ์ใหญ่จะถูกเรียกเก็บภาษีดิจิทัลจากประเทศใดประเทศหนึ่ง มันก็สมควรเป็นประเทศแม่ของบริษัทเหล่านั้น” และนอกจากนั้นยังบอกด้วยว่า “สหรัฐอเมริกาจะตอบโต้ความโง่เง่าของผู้นำฝรั่งเศส … และอย่างที่เคยพูดมาตลอดว่า ไวน์อเมริกาดีกว่าไวน์ฝรั่งเศส”

ล่าสุด หลังการประชุม G7 ผู้สื่อข่าวนำประเด็นการจะเรียกเก็บภาษีไวน์จากฝรั่งเศสที่ทรัมป์ทวีตมาถามต่อ

ทรัมป์ ตอบว่า “ถ้าถามว่าสหรัฐอเมริกาจะเรียกเก็บภาษีไวน์จากฝรั่งเศสเท่าไหร่ ก็ให้รอดูว่าฝรั่งเศสจะเรียกเก็บภาษีดิจิทัลเท่าไหร่กันแน่”

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประชุม ทรัมป์ได้พูดชัดเจนว่าเขาไม่เห็นด้วยการกฎหมายการเรียกเก็บภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศส เขามองไม่มีความยุติธรรม แต่ถ้าฝรั่งเศสคิดที่จะทำ เขาก็เรียกเก็บภาษีไวน์จากฝรั่งเศสให้แพงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ที่มา – Politico

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา