สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นสมัยนี้เขาไปเกิดกันในจีนกันเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่าในจำนวนนี้เกือบครึ่งระดมทุนจากบริษัทสายเทคฯ ยักษ์ใหญ่ 4 รายหลักของจีน ส่วนรายย่อยที่มีอนาคตก็ถูกซื้อ รายเล็กจริงๆ อยู่ยาก
พึงตระหนักว่า บริษัทใหญ่คือผู้สนับสนุนหลักในยูนิคอร์นทั้งหลาย
อาจไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ สำหรับคนที่ติดตามวงการธุรกิจสตาร์ทอัพมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากประเด็นที่ว่าขณะนี้ 1 ใน 3 ของยูนิคอร์นสตาร์ทอัพในโลกอยู่ที่ประเทศจีน อีกประเด็นที่ต้องจับตามองคือ กว่า 46% ของสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นในจีนได้รับการสนับสนุน (ระดมทุน) โดยบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน ไม่ว่าจะเป็น Baidu, Alibaba, Tencent และ JD.com หรือพูดอีกอย่างให้ชัดเลยคือ เกือบครึ่งของสตาร์ทอัพยูนิคอร์นในจีนได้รับทุนสนับสนุนมาจาก 4 บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนนั่นเอง
- นี่ก็หมายความว่า บริษัทสายเทคฯ ยักษ์ใหญ่ของจีนทั้ง 4 รายนี้ อย่างน้อยที่สุดก็ย่อมมีส่วนสำคัญในการกุมชะตาและก้าวย่างของสตาร์ทอัพในจีน (เพราะครองยูนิคอร์นในจีนเกือบครึ่งของตลาดรวม)
ดูผังแสดงความเชื่อมโยงของสตาร์ทอัพพันล้านเหรียญกับ 4 บริษัทสายเทคฯ ยักษ์ใหญ่ของจีนที่นี่
จีนสไตล์? : แค่ใหญ่ไม่พอ “ต้องซื้อเข้าว่า” ขยายต่อไป ไม่หยุดยั้ง
Didi Chuxing สตาร์ทอัพยูนิคอร์นรายแรกของจีน (และยังเป็นรายใหญ่ที่สุดในจีน) ตอนนี้มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านเหรียญ รองลงมาจาก Uber ที่ครองเบอร์ 1 ของโลกด้วยมูลค่า 6.8 หมื่นล้านเหรียญ แต่ถ้าพูดในแง่ธุรกิจ Didi ก็ทำเอา Uber ไปไม่เป็นท่าในจีนมาแล้ว แต่จะด้วยเพราะปัญหาด้านวัฒนธรรม ความไม่เข้าใจพฤติกรรมของผู้คนในแถบนี้ หรือคู่แข่งมาแรงก็ตาม
ประเด็นก็คือ Didi ที่แม้จะเป็นเบอร์ 1 ของจีน จะไม่หยุดแค่บริการเรียกรถร่วมโดยสาร แต่ล่าสุดได้เข้าไปซื้อหุ้นใน Ofo สตาร์ทอัพแชร์จักรยานรายใหญ่ในจีนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แม้จะเห็นและรับรู้กันมาบ้างแล้ว แต่พอเมื่อได้เห็นข้อมูลกันชัดๆ อีกครั้ง ก็น่าจะพูดได้เต็มปากกันมากขึ้นว่า ยุคทองของสตาร์ตอัพจบลงแล้ว ยุคต่อไปบริษัทใหญ่ได้เปรียบมากกว่า
ที่มา – Nikkei Asian Review
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา