ล็อคดาวน์ลามถึงปักกิ่ง: จีนเร่งคุมโควิดเข้มข้น คนหลายล้านต่อคิวตรวจโรค

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปักกิ่งเริ่มต่อแถวตรวจหาโควิดจำนวน 3 ใน 4 ของประชากรในปักกิ่งที่มีอยู่ราวราว 22 ล้านคน ขณะเดียวกันผู้ที่พักอาศัยอยู่ในปักกิ่งต่างก็เริ่มตุนอาหารและของที่จำเป็นไว้แล้ว หากมีคำสั่งล็อคดาวน์กระทันหัน เหมือนกับที่จีนทำกับเซี่ยงไฮ้ที่มีผู้คนอาศัยอยู่ราว 25 ล้านคน

Beijing Lockdown

การประท้วงในจีนเกิดขึ้นอย่างเดือดดาลแบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในประเทศจีนยุคใหม่ มีทั้งคลิปวิดีโอที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดียสะท้อนให้ผู้คนเห็นว่ามีการตีกระทะ ตีหม้อแสดงความไม่พอใจผ่านหน้าต่างที่พักอาศัย บ้างก็เปิดเพลง Do You Hear The People Sing? จากละครเพลงเรื่อง Les Miserables

ปักกิ่งพยายามเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกัน แต่ก็ยังยึดนโยบาย Zero Covid โดยการเร่งตรวจโรคผู้คนจำนวนมากถึง 3.5 ล้านคนในเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นบริเวณเขตฉาวหยางของเมืองปักกิ่ง (Chaoyang) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากนั้นก็มีการตรวจเพิ่มเพื่อให้ครอบคลุมจำนวนประชากร ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เซี่ยงไฮ้รายงานว่ามีคนเสียชีวิตเพิ่มจากโควิด 52 คน ทำให้มีคนเสียชีวิตรวม 190 คน

CNA สัมภาษณ์ Liu Wentao กุ๊กทำอาหารในปักกิ่งระบุว่า เขากังวลว่าโควิดมันแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วได้อย่างไร แต่ก็มั่นใจว่าเมืองหลวงอย่างปักกิ่งก็น่าจะรับมือได้ เขาบอกว่าการควบคุมไวรัสเข้มข้นกว่าที่อื่นๆ เขาไม่คิดว่าจะเป็นแบบเดียวกับเซี่ยงไฮ้ การตัดสินใจตรวจโรคผู้ที่อาศัยอยู่ในปักกิ่งราว 20 ล้านคน เกิดขึ้นหลังจากพบว่ามีคนติดเชื้อโควิดราว 10 คน ขณะที่เซี่ยงไฮ้นั้นใช้เวลายาวนานเป็นเดือน จนมีคนติดโควิดแล้วกว่า 1,000 คนจึงจะเริ่มมีการตรวจโรคได้ในช่วงต้นเดือนเมษายน

ปักกิ่งคือเมืองหลวง การควบคุมไวรัสจะต้องเข้มข้นกว่าพื้นที่อื่นๆ Liu ไม่คิดว่าจะซ้ำรอยเซี่ยงไฮ้ ที่เริ่มมีการตรวจเมื่อคนติดเชื้อถึงพันคนแล้ว

covid 19
Photo by Shengpengpeng Cai on Unsplash

สำหรับการเดินหน้าคุมโรคระบาดด้วยการเร่งตรวจโรคผู้คนอย่างมหาศาลนี้ ทั้งโรงเรียน ร้านค้าและสำนักงานยังคงเปิดดำเนินกิจการต่อ แต่สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างวัดลามะในปักกิ่งนี้จะปิดทำการตั้งแต่วันพุธ ขณะที่โรงภาพยนตร์แห่งชาติก็จะปิดทำการเช่นกัน ด้านทางการจีนก็ขอให้ประชาชนพยายามไม่เดินทางออกจากเมืองหลวง หลีกเลี่ยงที่จะอยู่รวมตัวในช่วงวันหยุดแรงงานแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึง 4 พฤษภาคม

การตรวจแบบ PCR รอบที่สามกำลังดำเนินการอยู่ตั้งแต่วันอังคารถึงวันเสาร์บริเวณเขตตงเฉิง เขตซีเฉิง เขตไหเตียน เขตเฟิงไท่ เขตซื่อจิงชาน เขตฟางซาน เขตถงโจว เขตชุนอวี้ เขตฉางผิง เขตต้าซิง และพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีปักกิ่ง (BDA) ซึ่งก็มีหลายแห่งเช่นกัน

สำหรับในเซี่ยงไฮ้ มีมาตรการบังคับเข้มงวดต่อเนื่อง แต่การตรวจ PCR ก็ยังดำเนินไปอย่างล่าช้า ด้านเจ้าหน้าที่ระบุว่ามีการผ่อนคลายบ้างแล้ว แต่ก็ยังต้องจำกัดให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย หรือไม่ให้ออกจากที่พัก ในบางพื้นที่ที่อนุญาตให้ออกไปนอกบ้านได้ สถานที่หลายแห่งก็ปิดดำเนินการ มีน้อยแห่งมากที่จะเปิด สำหรับผู้พักอาศัยที่ต้องการเดินทางออกจากบ้าน ก็จะถูกขอให้ตรวจโควิดแบบ rapid test ซึ่งการล็อคดาวน์ที่ยืดเยื้อี้ ทำให้ยิ่งสร้างความสับสนแก่ผู้คน สูญเสียรายได้ ครอบครัวต้องแยกออกจากกัน การเข้าถึงทางการแพทย์และอาหารก็ยากลำบาก

covid in China
Photo by cheng feng on Unsplash

CNA รายงานว่า คนที่ติดเชื้อรายใหม่มีทั้งมีอาการและไม่มีอาการ แต่ก็มีจำนวนลดลงต่อเนื่อง ขณะที่คนที่ติดเชื้อและอยู่ภายนอกพื้นที่กักกันโรคก็มีเพียงหลักร้อยเท่านั้น เมืองอื่นๆ ก็เคยถูกล็อคดาวน์และเริ่มลดข้อจำกัดบ้างแล้ว ขณะที่ RFA รายงานว่า การพยายามควบคุมโควิดในปักกิ่ง ทำให้มีคนเริ่มหนีออกมาเพราะเห็นตัวอย่างชีวิตที่ยากลำบากหลังล็อคดาวน์ที่เกิดขึ้นในเซี่ยงไฮ้

ภาพและวิดีโอในโซเชียลมีเดียสะท้อนให้เห็นภาพการจราจรที่ติดขัดและผู้คนพยายามลากกระเป๋าเกลื่อนท้องถนน มีคนบอกว่า ยังไงก็หนีออกมาไม่ได้เพราะเจ้าหน้าที่ควบคุมหนาแน่น บ้างก็มองว่า การล็อคดาวน์ในปักกิ่งนั้น เหล่าคนรวยต่างหนีออกจากเมืองโดยที่ไม่ต้องรอการตัดสินใจจากทางการ ขณะที่บางคนก็ตุนอาหารทันทีหลังรู้ว่ามีคนติดเชื้อโควิดในปักกิ่ง

คนที่อยู่ในปักกิ่งไม่ได้แค่พยายามหนีเพราะมีคนติดเชื้อโควิดและเกรงว่าจะมีชะตาชีวิตแบบเดียวกับผู้คนในเซี่ยงไฮ้เท่านั้น แต่ยังมีการสั่งแบนแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ด้วย มีการแบนไม่ให้ส่งหรือชอปปิงให้รายบุคคล นั่นหมายความว่า ถ้ามีการล็อคดาวน์เข้มข้น อาหาร ยา และสิ่งของจำเป็นต้องถูกสกรีนจากรัฐเท่านั้นถึงจะเข้าถึงได้ นอกจากปักกิ่งก็ยังมีการล็อคดาวน์ในบางพื้นที่ให้ผู้คนเริ่มหวั่นใจ ล่าสุดก็มีการยกเลิกเที่ยวบินในกวางโจวนับร้อยและระดมตรวจโควิด 5.6 ล้านคน

ที่มา – CNA (1), (2), RFA

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา