จีน Lockdown เข้มข้น: เร่งควบคุมโควิด จนคนอยู่ลำบาก รถโดยสารไม่มี คนส่งของไม่พอ

ต้องบอกว่าอาการหนักจริงๆ สำหรับประเทศจีน ที่ล่าสุดล็อคดาวน์เสียจนคนจีนอยู่ในประเทศตัวเองยังอยู่ลำบาก เดือดร้อนจนต้องออกมาประท้วง ประท้วงจนทางการจีนต้องสั่งเซ็นเซอร์คลิปประท้วงอีก เป็นการจัดการโควิดที่เชื้อโรคอยู่ไม่ได้ไม่พอ คนก็จะอยู่ไม่ได้ด้วย

Covid-Zero

มาตรการ Covid Zero เข้มข้น จนคนอยู่ลำบาก

Brad Zhang กักตัวอยู่ในโรงแรมของจีน เซี่ยงไฮ้ เป็นเวลายาวนาน 3 สัปดาห์แล้ว เมื่อจีนเริ่มสั่ง lockdown หลังจากที่โควิดระบาดรอบใหม่ ทำให้ในตัวเมืองไม่มีรถแท็กซี่วิ่ง ไม่มีขนส่งมวลชนให้บริการ เขาต้องเดินลากกระเป๋าเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรเพื่อกลับบ้านตัวเองท่ามกลางเมืองปิดตายที่มีคนอยู่อาศัยราว 25 ล้านคน Zhang บอกว่าวิธีเดียวที่เขาจะกลับบ้านได้ก็คือ เดิน เขาถูกกักตัวหลังจากเดินทางมาจากต่างประเทศ Zhang บอกว่าเขาไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่มีร้านรวงเปิด ไม่มีร้านอาหารเปิดสักร้านเลย

ขณะที่ Wang ที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของเซี่ยงไฮ้ บอกว่า เขากำลังหมดหวังที่คิดว่าอพาร์ทเมนท์เขาน่าจะหลุดจากการล็อคดาวน์เหมือนทางฝั่งตะวันตกเสียที เพราะเขาไม่ได้กักตุนอาหารไว้และตอนนี้เขาก็พึ่งพาการกินอยู่กับเพื่อนบ้านเท่านั้น เขาบอกว่า มีแต่ทรัพยากรทางการแพทย์เท่านั้นที่ถูกมุ่งเป้า ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ แต่จีนไม่ได้สนใจชีวิตที่เหลือท่ามกลางการล็อคดาวน์เลย หลายคนต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤตเพราะไม่ได้รับการดูแล ไม่ใช่การดูแลจากโควิด แต่เป็นการดูแลในเรื่องความหิวโหยและการดูแลที่ช้าเกินไปจะทำให้ชีวิตของผู้คนตกอยู่ในความเสี่ยง ตกอยู่ในช่วงโศกนาฏกรรม มันเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากมนุษย์ลงมือทำกันเองนี่แหละ พนักงานส่งอาหารก็ถูกห้ามปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

Kye Lee เป็นอีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เธอพยายามสั่งผัก เนื้อสัตว์และสิ่งของที่จำเป็นมายังพื้นที่ล็อคดาวน์ที่เธออยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่เธอก็พบว่า ความพยายามนั้นล้มเหลว คำสั่งซื้อของเธอโดนปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า การล็อคดาวน์ไม่ใช่แค่ทำให้เดินทางลำบาก อาหารไม่มีจะกิน แต่บางคนยังเตรียมตัวไม่ทันด้วยซ้ำ หลังมีคนติดเชื้อเพิ่มจำนวนขึ้น รัฐก็พร้อมใช้มาตรการควบคุมโรคระบาดทันที เซี่ยงไฮ้กลายเป็นศูนย์กลางขอโรคระบาดหลังจากที่พบคนติดเชื้อโอไมครอนเพิ่ม แต่คนส่วนใหญ่ก็มีอาการอ่อนๆ ไปจนถึงไม่มีอาการเลย

covid 19
Photo by Shengpengpeng Cai on Unsplash

ควบคุมจนล้มเหลว พอคนลุกขึ้นประท้วงก็ถูกเซ็นเซอร์

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา อาจกล่าวได้ว่า จีนมุ่งเป้าหวังควบคุมโควิดจนไม่สนใจว่าคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ล็อคดาวน์จะประสบปัญหาในการใช้ชีวิตอย่างไร ล่าสุด บริษัทเทคจีนยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent ยังต้องเอาคลิปวิดีโอออกจาก WeChat เพราะผิดกฎหมายและนโยบายของจีน ที่คนประท้วงผ่านคลิปวิดีโอ เรียกร้องว่าพวกเขาหิว เขาต้องการทานอาหาร ต้องการสิทธิที่จะรับรู้และต้องการเสรีภาพ เป็นการเรียกร้องสิทธิที่พวกเขากำลังถูกบีบบังคับผ่านนโยบายล็อคดาวน์เซี่ยงไฮ้ของจีน

มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมเซี่ยงไฮ้คิดเป็น 3.8% ของ GDP จีน เป็นเมืองที่ชนชั้นนำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เซี่ยงไฮ้ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีคนรวยอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก เป็นทั้งศูนย์กลางบริการทางการเงิน เป็นทั้งศูนย์รวมแฟชั่นหรู เป็นพื้นที่ที่มีคนต่างประเทศมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากที่สุดในจีน ระบบการให้บริการด้านสาธารณสุขก็ถือว่าดีที่สุดของประเทศ ไม่มีโรคระบาดมาสองปีแล้ว คนไม่คุ้นเคยกับนโยบาย Covid Zero ของจีน ทางการจีนถึงกับต้องออกจดหมายเปิดผนึกเพื่อขอบคุณชาวเมืองเซี่ยงไฮ้ที่อดทนต่อความยากลำบากจากมาตรการกำจัดโรคระบาดของจีน โดยจีนสัญญาว่าจะจัดการให้ดีขึ้นทั้งในส่วนของการให้ความดูแลแบบฉุกเฉินและการจัดหาอาหารให้

ปัญหาใหญ่ตอนนี้ของจีนคือ มีผู้คนราว 71 ล้านคนที่กำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์หลายพื้นที่ในจีน จนทำให้ผู้คนประสบปัญหาเพราะขาดแคลนอาหาร ทั้งในรูปแบบไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้ ทั้งการทุ่มซื้ออาหารเพราะความตกใจกลัว ขณะเดียวกันก็ขาดแคลนพนักงานส่งของด้วย นักวิชการจาก Chinese University of Hong Kong ระบุว่า การล็อคดาวน์ของจีนสร้างภาระและต้นทุนให้ประเทศสูงถึงราว 4.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1.53 ล้านล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 3.1% ของ GDP

Xi Jinping
ภาพจาก Shutterstock

WeChat ไม่ได้ลบแค่วิดีโอประท้วงการจัดการที่ล้มเหลวของรัฐบาลจีนเท่านั้น ยังบบทความจาก Li Chengpeng ผู้ที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์นโยบายจีนอยู่บ่อยครั้ง บทความที่ถูกลบทิ้งไป เขาก็พูดถึงต้นทุนต้นทุนของนโยบาย Covid Zero ของจีนที่สร้างผลกระทบต่อมนุษย์เช่นกัน

ที่มา – Nikkei, Bloomberg

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา