ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เตรียมที่จะมีมาตรการผ่อนคลายให้เงินทุนไหลออกมากกว่าเดิม เพื่อแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าอยู่ในขณะนี้
วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg โดยกล่าวถึงเรื่องของมาตรการแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่า ว่าอาจมีมาตรการเพิ่มเติมนอกจากมาตรการที่ออกมาในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เช่น มาตรการการยกเว้นการนำเงินรายได้จากการส่งออกกลับประเทศ หรือแม้แต่ปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่ามากขึ้น
- ค่าเงินบาทกลับมาอยู่ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์แล้ว นายกย้ำรัฐบาลและแบงก์ชาติตามติดเรื่องนี้
- “แบงก์ชาติ” แจงค่าเงินแข็งค่าจนหลุด 30 บาทต่อดอลาร์ ชี้สาเหตุใหญ่มาจากสภาพคล่องต่ำ
- สู้บาทแข็ง! ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับเกณฑ์ให้เงินทุนไหลออกได้ง่ายมากกว่าเดิม
มาตรการที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมนำมาใช้เพิ่มเติม เพื่อสู้กับบาทแข็งได้แก่
- อนุญาตให้ผู้ส่งออกที่มีรายได้ต่ำกว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อใบขน สามารถฝากเงินไว้ในต่างประเทศโดยไม่จำกัดระยะเวลา จะเพิ่มเป็นมูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อใบขน
- ภายในครึ่งปีแรกของปีนี้จะปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศให้ง่ายขึ้น
- ผ่อนคลายเงื่อนไขให้บริษัทประกันภัยสามารถลงทุนในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะจับตาความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ไม่ใช่ในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนว่าจะต้องอยู่ที่เท่าไหร่ และได้กล่าวเสริมว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความกังวลถ้าหากค่าเงินบาทเคลื่อนไหวเร็วกว่าประเทศอื่นๆ
ในช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมานั้นธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงหลังจากที่ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าอย่างหนัก โดยลงไปต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ชี้แจงว่า เกิดจากผลจากการเร่งทำธุรกรรมก่อนสิ้นปีของผู้ประกอบการบางรายในสภาวะที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ ความต้องการซื้อและขายเงินตราต่างประเทศไม่สมดุลในช่วงก่อนวันหยุดสิ้นปี
ค่าเงินบาทล่าสุดที่ซื้อขายในตลาดต่างประเทศล่าสุดอยู่ที่ 30.375 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่า 0.25%
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา