ปัจจุบัน Avengers: Endgame คือหนังที่ทำรายได้มากที่สุดในโลกตลอดกาล ใช้เวลาไต่อันดับขึ้นที่ 1 ของโลกรวม 87 วัน
สถิติใหม่ของวงการภาพยนตร์
ในที่สุด Avengers: Endgame ก็โค่นล้ม Avatar ในแง่รายได้ และขึ้นแท่นเป็นหนังทำเงินเบอร์ 1 ของโลกตลอดกาล
รายได้รวมของ Avengers: Endgame ในปัจจุบันคือ 2.790 พันล้านดอลลาร์ (แซง Avatar ที่มีรายได้อยู่ที่ 2.789 พันล้านดอลลาร์) แบ่งเป็น
- ในสหรัฐอเมริกาและแถบอเมริกาเหนือทำรายได้รวม 854.2 ล้านดอลลาร์
- ส่วนรายได้ทั่วโลกอยู่ที่ 1.936 พันล้านดอลลาร์
Avengers: Endgame ใช้เวลารวม 87 วันในการฉายในโรงภาพยนตร์เพื่อโค่นล้ม Avatar ในขณะที่ Avatar ฉายในปี 2009 และฉายซ้ำในปี 2010 รวมเวลาการฉายในโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 234 วัน
อย่างไรก็ตามบนตาราง Box Office 10 อันดับแรกของหนังที่ทำเงินสูงที่สุดในโลก ค่าย Disney ครอบครองไว้แล้วถึง 6 อันดับ ได้แก่ Avengers: Endgame, Star Wars: The Force Awakens, Avengers: Infinity War, Marvel’s The Avengers, Avengers: Age of Ultron และ Black Panther
ก่อนหน้านี้ นักเคราะห์มองว่า Avengers: Endgame ไม่น่าจะล้ม Avatar ได้
ปัจจัยสำคัญของ Avatar ในการขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของโลกส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าคือช่วงเวลาในการฉายที่เหมาะเจาะ เพราะถ้าย้อนไปดูช่วงที่ Avatar เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพื่อทำเงิน ช่วงแรกคือปี 2009 และช่วงที่นำมาฉายซ้ำอีกรอบคือเดือนมกราคมต่อด้วยกุมภาพันธ์ในปี 2010 ในช่วงนั้นเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีหนังทำเงินเรื่องใหญ่ๆ มาเป็นคู่แข่ง โดยข้อมูลหลายแหล่งระบุว่า ไม่มีหนังเรื่องใดในช่วงนั้นที่เป็น blockbuster จะมาต่อกรกับ Avatar เลย ทำให้สามารถฉายในใรงภาพยนตร์ตีกินได้ยาวๆ
ในขณะที่ Avengers: Endgame เข้าโรงฉายช่วงปลายเดือนเมษายนปี 2019 ก็เตรียมตัวพบกับหนังทำเงินอีกหลายเรื่องที่จ่อเข้าโรงภาพยนตร์รับซัมเมอร์เป็นจำนวนมาก เช่น Pokemon Detective Pikachu, Aladdin, Godzilla: King of the Monsters, Dark Phoenix และ The Secret Life of Pets 2
ดังนั้นในวันที่ Avengers: Endgame โค่น Titanic ได้ นักวิเคราะห์จึงมองว่า Avengers: Endgame ไม่น่าจะโค่น Avatar ได้ เพราะรายได้ยังห่างอีกประมาณ 600 ล้านดอลลาร์
- แต่ ณ วันนี้ Avengers: Endgame ก็พิสูจน์แล้วว่า ความยอดนิยมของหนังฮีโร่ในยุคนี้มาแรงจริงๆ
***ตัวเลขรายได้ของหนังไม่ได้ปรับตามอัตราเงินเฟ้อใดๆ***
ที่มา – BoxofficeMojo, CNBC
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา