ธนาคารยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่าง Deutsche Bank กำลังพบกับวิกฤติหนัก เนื่องจากข่าวของการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ นอกจากนี้พนักงานในสหรัฐก็เริ่มเกียร์ว่าง ไม่สนใจงานที่ทำ ขณะที่ผู้บริหารก็ทยอยลาออก
Deutsche Bank สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก เตรียมตัวที่จะปรับโครงสร้างองค์กรอีกครั้ง หลังจากประสบปัญหามากกว่าที่คิด และไม่สามารถควบรวมกิจการกับ Commerzbank ได้ โดยคาดว่าการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่นี้จะใช้เงินมากถึง 5,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 173,000 ล้านบาท นอกจากนี้ตัวธนาคารเองยังต้องบริหารหนี้เสียที่มีอยู่มากถึง 1 ใน 4 ของสินทรัพย์ธนาคารด้วย
- [ลือ] Deutsche Bank อาจปลดพนักงานครั้งใหญ่ เตรียมตกงานกว่า 20,000 คน
- Deutsche Bank เลิกควบรวมกิจการ Commerzbank แล้ว หลังพบว่าไม่คุ้มเสี่ยงที่จะควบรวม
โดยแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนได้กล่าวกับ Bloomberg คาดว่าแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้จะทำให้ Deutsche Bank มีกลุ่มธุรกิจทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ คือ
- ธุรกิจหลักทรัพย์
- ธุรกิจรายย่อยและบริหารความมั่งคั่ง
- ธุรกิจจัดการกองทุน
- ธุรกิจสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจและธุรกรรมการเงิน
- ธุรกิจอื่นๆ
ซึ่งจากเดิม Deutsche Bank มีกลุ่มธุรกิจอยู่ 3 ธุรกิจเท่านั้น โดยการแยกบางแผนกออกจากกันนั้นธนาคารเชื่อว่าจะทำให้สามารถดำเนินงานได้สะดวกมากขึ้น
Deutsche Bank ยังต้องแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้เสียของธนาคารที่คาดว่าจะมากถึง 80,000 ล้านยูโร จากเดิมที่คาดไว้เพียงแค่ 50,000 ล้านยูโรเท่านั้น ไม่ใช่แค่ Deutsche Bank ที่ประสบปัญหานี้รายเดียว แต่สถาบันการเงินใหญ่ๆ อย่าง Citi เคยจัดตั้งแผนกแก้ไขโดยเฉพาะในปี 2009 หลังช่วงวิกฤติการเงิน โดยใช้เวลาเกือบ 7 ปีในการแก้ไข รวมไปถึงสถาบันการเงินอื่นๆ เช่น RBS หรือ Credit Suisse ก็เคยทำมาแล้ว
ขณะที่ปัญหาที่ธนาคารต้องรื้อโครงสร้างการบริหารใหม่ยังไม่สะเด็ดน้ำ แต่ผู้บริหารในแผนกต่างๆ ก็ต่างทยอยลาออกไปหลายรายแล้ว เช่น หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ หัวหน้าฝ่ายลูกค้ารายย่อย โดยก่อนหน้านี้ผู้บริหารฝ่ายวาณิชธนกิจก็ได้ลาออกไปหลังจากที่มีกระแสข่าวว่าธนาคารจะไม่ดำเนินธุรกิจวาณิชธนกิจอีกต่อไป แม้ว่าจะสร้างรายได้ให้ธนาคารในปีที่แล้วถึง 2,200 ล้านยูโร แต่ธุรกิจนี้กลับขาดทุน 750 ล้านยูโร
สำหรับความยิ่งใหญ่ของ Deutsche Bank ในอดีตเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินจากยุโรปที่พยายามที่จะสู้ในเรื่องธุรกิจวาณิชธนกิจกับสถาบันการเงินใหญ่ๆ ของสหรัฐ เช่น JP Morgan และ Morgan Stanley หรือ Goldman Sachs แต่ท้ายที่สุดแล้วสถาบันการเงินในยุโรปแทบทั้งหมดไม่สามารถแข่งขันกับสถาบันการเงินในสหรัฐได้เลย
หน่วยธุรกิจที่ได้รับผลจากการปลดพนักงานมากที่สุดคือในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับผลกระทบถึง 9,000 คน ทางด้าน Business Insider ได้รายงานว่าพนักงานเริ่มเกียร์ว่างมากขึ้น ไม่สนใจเรื่องทำงาน บางส่วนเริ่มทยอยหางานใหม่ต่อหน้าเจ้านายตัวเอง ขณะที่งานในปัจจุบันก็เริ่มลดการทำงานลง บางรายถึงขั้นเมื่อถึงตอนบ่ายแล้วเริ่มไม่ทำงาน แต่ลงไปผับหาเบียร์กินแทนด้วยซ้ำ
ความท้าทายของ Deutsche Bank รื้อโครงสร้างการบริหารใหม่ยังไม่จบเพียงแค่นั้น มาตรฐานธนาคารอย่าง Basel IV ที่บังคับให้ธนาคารต้องมีเงินกองทุนขั้นที่ 1 เพิ่มมากขึ้น กำลังคืบมาเรื่อยๆ ขณะที่ทาง Deutsche Bank มีเงินกองทุนขั้นที่ 1 แค่ 11.8% เท่านั้น โดยนักวิเคราะห์คาดว่าท้ายที่สุดแล้วต้องมีการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเพื่อแก้ปัญหาอยู่ดี
ท้ายที่สุดแล้วต้องรอการแถลงข่าวจาก Christian Sewing ซึ่งเป็น CEO ของ Deutsche Bank ในอีกไม่กี่วันว่าแผนของธนาคารที่จะแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็นระยะเวลายาวนานจะเป็นเช่นไร โดยผลตอบแทนในระยะเวลา 1 ปีของหุ้น Deutsche Bank คือ -25.64%
ที่มา – Bloomberg, Yahoo News, Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา