หลังจากนี้ตลาด Prepaid Card หรือบัตรเติมเงินที่มีรูปแบบการใช้งานเหมือนบัตรเครดิตในสหรัฐอเมริกาเตรียมแข่งขันกันหนักแน่นอน เพราะยักษ์ใหญ่ลงมาเล่นกันเองเพียบ ที่สำคัญในประเทศไทยก็อาจเกิดเหตุการณ์เดียวกันด้วย
โอกาสใหม่ของผู้ไม่มีบัญชีธนาคาร-รายได้น้อย
Prepaid Card หรือบัตรเติมเงินที่มีรูปแบบการใช้งานคล้ายกับบัตรเครดิตนั้นเริ่มได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกามากขึ้นเรื่อยๆ สังเกตจากยอดการใช้งานกว่า 10,700 ทรานเซ็กชั่นในปี 2559 ซึ่งยอดดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าราว 2.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.24 ล้านล้านบาท) เพราะมันค่อนข้างตอบโจทย์การใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่
เนื่องจากคนรุ่นใหม่นั้นบางคนก็มีรายได้น้อย และไม่สามารถเปิดใช้งานบัตรเครดิตได้ นอกจากนี้ยังตอบโจทย์คนที่ไม่มีบัญชีธนาคารแต่ต้องการความสะดวกสบายในการซื้อสินค้าด้วยบัตรพลาสติกเช่นเดียวกัน และเมื่อตลาดมันเดินไปในทิศทางนี้ก็ไม่แปลกที่ผู้เล่นใหม่ๆ จะกระโดดเข้ามาทำตลาดบริการดังกล่าว
ตัวอย่างที่ดีคือบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Apple ที่ก่อนหน้านี้ให้บริการ Apple Pay ที่สามารถเติมเงินสดเข้าไปเพื่อใช้จ่ายตามร้านค้าที่รับชำระด้วยวิธีนี้ได้ แถมล่าสุดก็เปิดตัว Apple Card บัตรเครดิตเต็มรูปแบบที่บริษัทร่วมมือกับ Master Card และ Goldman Sach เพื่อสร้างประสบการณ์การชำระเงินรูปแบบใหม่อีกด้วย
มูลค่ารวมอาจพุ่งสูงถึง 3.96 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2565
เมื่อมีบริษัทเทคโนโลยี และผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารหันมาสร้างบริการ Prepaid Card ในสหรัฐฯ มากขึ้น ก็ไม่แปลกที่ปี 2565 มูลค่าการจับจ่ายด้วย Prepaid Card จะพุ่งถึง 3.96 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 12.62 ล้านล้านบาท) เรียกว่ามากพอสมควรแม้จะดูน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าการจับจ่ายด้วยบัตรเครดิต
เหตุผลที่ตัว Prepaid Card ได้รับความนิยมมากขึ้นนอกจากตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีรายได้น้อย และคนที่ไม่มีบัญชีธนาคารแล้ว ยังตอบโจทย์คนมีรายได้มาก แต่อยากได้รับความปลอดภัยทางการเงิน เพราะตัว Prepaid Card นั้นจะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อมีการเติมเงินเข้าไปก่อน หากถูกขโมยไปใช้งานก็คงไม่เสียดายอะไรมากนัก
ตลาดในประเทศไทยก็กำลังเดินไปในทิศทางนี้
สำหรับบริการ Prepaid Card ในประเทศไทยนั้น ปัจจุบันเริ่มมีบางธนาคารให้บริการแล้ว เช่นไทยพาณิชย์ที่ออก Prepaid Card ร่วมกับเครือเดอะมอลล์ จากเดิมที่บัตรลักษณะนี้จะเป็นกลุ่มผู้ให้บริการ E-Wallet เช่น TrueWallet, AirPay และอื่นๆ ซึ่งคาดว่าทิศทางการเติบโตของบัตรประเภทนี้ก็น่าจะมากขึ้นเช่นกัน
สรุป
ด้วยความสะดวกของ Prepaid Card ทำให้ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงการชำระเงินแบบ Cashless หรือไร้เงินสดได้ (แม้จะต้องเติมเงินเข้าไปในระบบก่อนก็ตาม) ดังนั้นหากคนไหนที่อยากลองมีประสบการณ์แบบนี้บ้าง ก็ลองไปเปิดบัตรในบริการ E-Wallet ต่างๆ น่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด จากนั้นก็ช้อปปิ้งแบบไร้เงินสดให้จุใจไปเลย
อ้างอิง // Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา