ค่าเงินบาทไทยยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้รมว. คลังต้องกระทุ้งให้ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจัดการในเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากกระทบกับภาคส่งออก
ค่าเงินบาทของไทยยังทำสถิติแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ราคาล่าสุดอยู่ที่ 31.230 บาท ต่อ ดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทของไทยแข็งค่ามาแล้วกว่า 4.1% และแข็งค่าที่สุดในเอเชีย และยังมีท่าทีที่ยังจะแข็งค่าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
สาเหตุของค่าเงินบาทที่แข็งประกอบไปด้วยเม็ดเงินจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในประเทศไทย นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศจีนที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลให้เงินเฟ้อก็อยู่ในระดับต่ำ รวมไปถึงดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่ยังเป็นบวกอยู่ นอกจากนี้ค่าเงินบาทไทยในปัจจุบันยังมีแนวโน้มแข็งค่าตามค่าเงินหยวนของจีนด้วย
ล่าสุด อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยควรที่จะจัดการกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องแล้ว นอกจากนี้ยังต้องปรับค่าเงินบาทให้ใกล้เคียงกับเพื่อนบ้านด้วย เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากไปทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในเรื่องการส่งออก โดยเศรษฐกิจไทยนั้นพึ่งพิงการส่งออกเป็นหลัก
ขณะที่ วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า ไม่อยากให้มองว่าค่าเงินบาทต้องอยู่ที่อัตราเท่าไหร่ เพราะการแข็งค่าของเงินบาทครั้งนี้เกิดจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว นอกจากนี้ค่าเงินของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินโดนีเซีย ฯลฯ ก็แข็งค่าขึ้นมาด้วย และค่าเงินบาทไม่ได้แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค นอกจากนี้ผู้ว่า ธปท. ยังได้เตือนให้นักธุรกิจอย่าชะล่าใจด้วย เนื่องจากค่าเงินบาทผันผวน
อย่างไรก็ดีการที่ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าทำให้คนไทยบางส่วนแห่ไปแลกเงินสำหรับเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะเงินเยนของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้ ส่งผลให้ร้านแลกเงินหลายๆ ร้านประสบปัญหาเงินเยนขาดแคลนอีกด้วย
ที่มา – หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ, หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์, Bloomberg
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา