Samsung Galaxy Note เดินทางมาถึงรุ่นที่ 9 แล้ว ความท้าทายของตระกูล Note ไม่ใช่อยู่ที่การเป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด แต่ต้องทำอะไรได้มากกว่าสมาร์ทโฟน
เริ่มต้นจากปากกาขีดเขียน กลายร่างจนเป็นรีโมทคอนโทรล
ในแต่ละปี Samsung จะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิพทั้งหมด 2 ตัว ก็คือ Samsung Galaxy S และ Samsung Galaxy Note เป็นตระกูลระดับพรีเมี่ยมทั้ง 2 รุ่น ซึ่งตอนนี้ได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 9 แล้ว แต่ทั้ง 2 รุ่นก็มีกลุ่มผู้ใช้ที่แยกจากกันชัดเจน ไม่ได้แย่งตลาดกัน
สำหรับ Samsung Galaxy Note ได้เริ่มเข้าสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2011 เป็นการวางโพซิชั่นตัวเองกึ่งสมาร์ทโฟน กึ่งแท็บเล็ต มีหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว สร้างเซ็กเมนต์ Note เป็นของตัวเอง ชูจุดเด่นที่มี “ปากกา S Pen” ที่ไว้ใช้ขีดเขียน จดบันทึกในสมาร์ทโฟนได้เลย
วิชัย พรพระตั้ง รองประธานองค์กรธุรกิจโทรคมนาคม และไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ได้เริ่มเล่าถึงวิวัฒนาการของ Samsung Galaxy Note ว่า
“ในตอนแรกที่ออก Samsung Galaxy Note เพื่อต้องการตอบโจทย์การจดบันทึกโดยไม่มีข้อจำกัด จดผ่านสมาร์ทโฟน จนถึงวันหนึ่งได้มองว่าปากกาเป็นอะไรได้มากกว่าการขีดเขียนจึงได้เริ่มทำซอฟท์แวร์มาที่การไฮไลท์ทำ Scrapbook เหมือนเป็นไดอารี่ย่อมๆ บนโทรศัพท์ ต่อมาก็เริ่มพัฒนาเรื่องการแปลภาษา เวลาเอาปากกาไปไฮไลท์ก็แปลภาษาได้ทันที
พัฒนาจนปากกาให้สามารถทำอะไรได้มากขึ้น ตัดต่อรูปได้ ตอบโจทย์งานครีเอทีฟ จนล่าสุดได้เพิ่มศักยภาพให้ปากกา S Pen มีบลูทูธ สามารถใช้เป็นรีโมทคอลโทรลได้ ปลดปล่อยข้อจำกัดในตัวเองที่ต้องอยู่กับเครื่องตลอดได้”
โจทย์ของการพัฒนา Samsung Galaxy Note ในแต่ละปีจะอยู่ที่ว่า What’s Next? เป็นโจทย์สั้นๆ แต่ท้าทายมาก ทั้งตัวเครื่องเองก็ต้องนำอินไซต์จากผู้บริโภคมาพัฒนาเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์มากขึ้นไปอีก โดย Samsung Galaxy Note9 ตัวล่าสุดได้ถูกดีไซน์ขึ้นมาให้ใช้งานมากกว่าสมาร์ทโฟน ต้องหยิบจับทั้งเทรนด์ผู้บริโภค เทรนด์ของคอนเทนต์ เน็ตเวิร์ค
ทำให้รุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว สเกล 15:9 เมมโมรี่สูงสุด 512 GB ขยายแบตเตอรี่ 4,000 mAh เป็นการรองรับคอนเทนต์ 4K และเกมส์ ส่วน S Pen ดีไซน์ให้เป็น Low Energy เป็นบลูทูธ ทำอะไรได้มากกว่าปากกา ต้องเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิตให้ดีขึ้น
กลุ่มคนรัก Note เหนียวแน่นที่สุดในทุกรุ่น
ด้วยจุดแข็งของ Samsung Galaxy Note คือปากกา S Pen ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในช่วงแรกคือคนที่ใช้ในการทำงาน ต้องการจดบันทึก แต่ในระยะหลังก็พบว่ามีกลุ่มคนใช้ Note ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่
วิชัยบอกว่า Samsung Galaxy Note มีแฟนคลับที่เหนียวแน่นมากที่สุดในบรรดาทุกรุ่นของ Samsung และไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ของอาเซียนที่มียอดขาย Samsung Galaxy Note เยอะเช่นกัน
มีผลสำรวจของ Samsung ได้บอกว่าคนรัก Note ด้วย 5 เหตุผลหลัก 1. ปากกา S Pen 2. กล้องถ่ายรูป 3. หน้าจอใหญ่มาแต่ไหนแต่ไร 4. ความเร็วของเครื่อง และ 5. หน่วยความจำในเครื่อง
โดยที่ 85% ของคนใช้ Note จะแนะนำให้คนอื่นซื้อใช้ด้วย 83% บอกว่ารู้สึกคุ้มค่าเมื่อได้ใช้ Note และ 76% จะอัพเกรดโมเดลใหม่ เมื่อมีรุ่นใหม่ออกมา
วิชัยบอกว่า “Note ยังไงก็เป็น Note คนที่ใช้ส่วนใหญ่ถ้าเปลี่ยนเครื่องก็ไม่ออกจาก Note”
ในประเทศไทยไม่ได้มีตัวเลขแฟนคลับ Samsung Galaxy Note อย่างชัดเจน แต่พบว่ามีคอมมูนิตี้ที่กลุ่มแฟนๆ พูดคุยกันบนเฟซบุ๊กกว่า 10 กลุ่ม ซึ่งทางแบรนด์ก็คอยเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคว่ามีความต้องการอะไรบ้าง เพื่อไปพัฒนาต่อ
ในการเปิดตัว Samsung Galaxy Note9 ปีนี้ ถึงกับเล่นใหญ่เอาใจแฟนคลับมากขึ้นด้วยการจัดอีเวนต์ Note Fan Fest ที่ลานพาร์คพารากอนตลอด 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2561 ซึ่งเป็นวันจำหน่าย Note9 เป็นวันแรก เป็นการรวมพาร์ทเนอร์เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับแฟนๆ Note โดยเฉพาะ
จับกลุ่ม Generation Achievers คนรุ่นใหม่
การสื่อสารการตลาดในปีนี้ Samsung Galaxy Note ได้จับกลุ่มเป้าหมายกลุ่ม Young Achievers มากขึ้น เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกิดมากับเทคโนโลยี มีเซนส์ในการพัฒนาตัวเองด้วยเทคโนโลยี เป็นส่วนเติมเข้าไปในชีวิตเขา
ดีไซน์รุ่นนี้จึงมาจากความเข้าใจลูกค้า คนกลุ่มนี้ Slash-living นั่งทำงานที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องห้องทำงาน ไม่มีเส้นแบ่งขอบเขตระหว่างเวลาและสถานที่ และชีวิตคนกลุ่มนี้ไม่ได้ทำงานรอรับเงินเดือนอย่างเดียว แต่มี Passion ทั้งในการทำงาน และการใช้ชีวิต
วรรณา สวัสดิกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด บอกว่า
“คนกลุ่มนี้มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากคนทั่วไป ความคิดคือการใช้ชีวิตกับงานอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่ Work life balance มองว่าทำงานเดียวไม่เท่ ต้องมีงานหลัก และมีงานที่ชอบ งานที่ท้าทาย ทำงานเยอะก็จะ Pay Hard เพื่อให้รางวัลตัวเอง และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ในการใช้เทคโนโลยีสร้างความสำเร็จ มองว่าคนกลุม่นี้มีการเติบโตมากในไทย ทั้งนักธุรกิจรุ่นใหม่ กลุ่มสตาร์ทอัพก็คือกลุ่มนี้”
ไม่มีพรีเซ็นเตอร์ เพราะ Note ขายตัวมันเอง
จะเห็นว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ของ Samsung จะมีพรีเซ็นเตอร์โดยตลอด ขึ้นอยุ่กับว่าจับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มไหน แต่ Samsung Galaxy Note เป็นรุ่นเดียวที่ไม่มีพรีเซ็นเตอร์เป็นเซเลบริตี้ใดๆ เคยมีอยู่ครั้งเดียวเมื่อตอน Note 2 ที่ใช้ “โน้ต อุดม แต้พานิช” มาช่วยสร้างการรับรู้ แต่เป็นช่วงเฟส 2 ในการโปรโมท และชื่อคล้องกันพอดี
หลังจากนั้นก็ไม่เคยใช้ใช้พรีเซ็นเตอร์อีกเลย มีเพียงการใช้ Influencer Marketing ในการทำการตลาดเท่านั้น ทางวิชัยบอกว่า Note ขายตัวมันเองได้ ไม่ต้องมีพรีเซ็นเตอร์ กลุ่มคนใช้จะมีความเหนียวแน่น และไม่ใช่กลุ่มที่ต้องซื้อตามดารา
สรุป
ถือเป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีคาแร็คเตอร์ และจุดยืนที่ค่อนชัดเจนในตลาด มีกลุ่มผู้ใช้ชัดเจนเช่นกันว่าใช้เพื่ออะไร และมีแฟนคลับตัวยงอยู่ ความท้าทายของ Note จึงต้องพัฒนาให้เท่าทันความต้องการของกลุ่มผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าความคาดหวังของผู้ใช้ก็มีสูงมากเช่นกัน
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา