เรียกว่าเติบโตจนเกินหน้าเกินตาแบรนด์อื่นจริงๆ เพราะ Stylenanda แบรนด์แฟชั่น และเครื่องสำอางเกาหลีใต้กำลังเนื้อหอมสุดๆ โดยมีทั้งทุนสินค้า Luxury จากยุโรป LVMH และ Affinity ของฮ่องกงอยากควบรวมกิจการ
5 แสนล้านวอน กับการถือหุ้นกว่า 70%
หลังเริ่มทำธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2548 อาณาจักรของกลุ่ม Nanda จากเกาหลีใต้ก็ค่อยๆ เติบโตขึ้นมา โดยเริ่มต้นจากแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่น Stylenanda ที่ชูความเป็น Fast-Fashion เต็มที่ พร้อมอิงกระแส K-Pop ได้รับความนิยมสุดขีดในขณะนั้น ทำให้ยอดขายถล่มทลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียด้วยกันเอง
จากนั้นไม่นาน ทางกลุ่มก็ขยายแบรนด์เครื่องสำอางออกมาในชื่อ 3CE และเหมือนจะกลายเป็นที่รู้จักมากกว่าแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นเสียอีก เพราะเป็นที่นิยมในประเทศจีนมาก จนล่าสุดทำรายได้เกินครึ่งหนึ่งของกลุ่มบริษัทแล้ว โดยปี 2560 ทางกลุ่มทำยอดขายเฉพาะแบรนด์ Stylenanda ไปกว่า 1.7 แสนล้านวอน (ราว 5,000 ล้านบาท)
และเมื่อตัวแบรนด์เติบโตได้เหนือผู้เล่นท้องถิ่น จึงเป็นที่สนใจของกลุ่มทุน L Catterton ที่ตั้งเมื่อปี 2559 ผ่านการร่วมมือระหว่าง Catterton, LVMH และ Groupe Arnault ที่ล้วนเป็นยักษ์ใหญ่สินค้า Luxury รวมถึง Affinity จากฮ่องกง ที่พร้อมเสนอเงินถึง 5 แสนล้านวอน (ราว 15,000 ล้านบาท) เพื่อขอถือหุ้นใหญ่ 70%
เครื่องสำอาง และห้างฯ ก็ให้ความสนใจ
ขณะเดียวกันแบรนด์เครื่องสำอางทั้ง L’Oréal จากฝรั่งเศส และ Shiseido จากญี่ปุ่นก็ให้ความสนใจในการควบรวมกิจการกับกลุ่ม Nanda รวมถึงฝั่งธุรกิจห้างสรรพสินค้าในเกาหลีใต้เช่นกัน ซึ่งในปี 2559 กลุ่ม Nanda เคยดีลในลักษณะนี้กับ Hyundai Department Store รวมถึงกลุ่ม TPG แต่สุดท้ายการควบรวมกิจการก็ไม่เกิดขึ้น
เมื่อปี 2560 กลุ่ม Unilever ได้เข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเครื่องสำอางของเกาหลีใต้ Carver Korea ด้วยมูลค่า 2,270 ล้านยูโร (ราว 88,000 ล้านบาท) ถือเป็นดีลธุรกิจเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุด ส่วนกลุ่ม L Catterton เคยลงทุนในเกาหลีใต้แล้ว 360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11,000 ล้านบาท) YG Entertainment เป็นหนึ่งในนั้น
สรุป
ก่อนหน้านี้ทาง Brand Inside ได้เสนอข่าวเกี่ยวกับการล่มสลายของแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีตามท้องถนนไป แต่ด้วยกลุ่ม Nanda ตัดสินใจรุกตลาดอีกแบบ คือวางตัวให้พรีเมียมมากขึ้น และพยายามตีตลาดต่างประเทศให้แตก ประกอบกับราคาสินค้าที่ไม่สูงเกินไปนัก ทำให้ตัวแบรนด์ทั้ง Stylenanda และ 3CE กลายเป็นที่นิยมถึงปัจจุบัน
อ้างอิง // The Investor
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา