สัมภาษณ์ ‘เปา-พีรดนย์’ จากทายาทโรงสี สู่เจ้าของ iHAVECPU อาณาจักรร้านประกอบคอมพิวเตอร์มูลค่าพันล้าน

ในโลกธุรกิจ ไม่มีใครรู้ว่าจุดเปลี่ยนจะมาถึงเมื่อไหร่ บางคนเริ่มจากความถนัดเล็กๆ ที่ตัวเองรัก แล้วผลักดันให้กลายเป็นธุรกิจจริงจัง

หนึ่งในนั้นคือ ‘เปา-พีรดนย์ เหมยากร’ จากทายาทโรงสีที่ต้องเผชิญวิกฤต จนพลิกเส้นทางมาเป็นผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง ‘iHAVECPU’ อาณาจักรร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ครบวงจรมูลค่าพันล้าน

Brand Inside มีโอกาสพูดคุยกับ ‘เปา’ แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ถึงการทำธุรกิจ อุปสรรค ความท้าทาย และเบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ iHAVECPU เติบโตมาถึงวันนี้ จะเป็นอย่างไรบ้าง มาดูกัน

จากทายาทโรงสี สู่ผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์

‘เปา’ เล่าให้ Brand Inside ฟังว่า โรงสีข้าวของครอบครัวขาดทุนหนักจากโครงการจำนำข้าว ทำให้ตัวเขาต้องรับหนี้หลายล้าน แถมยังเจอกับความจริงว่า อุตสาหกรรมโรงสียังเข้าสู่ภาวะ ‘Sunset Market’ ธุรกิจที่เสี่ยงถดถอยจนไม่อาจพึ่งพาได้อีกต่อไป

สิ่งเดียวที่เขาถนัดและรักมาตั้งแต่เด็กคือ คอมพิวเตอร์ การประกอบเครื่อง และความหลงใหลในเทคโนโลยี จึงเป็นจุดเริ่มของเส้นทางใหม่ในโลกคอมพิวเตอร์ประกอบ

เขาเริ่มจากการขายคอมพิวเตอร์มือสองในเว็บบอร์ด ก่อนขยับสู่เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และยูทูบ จุดเริ่มต้นของ iHAVECPU คือออนไลน์ล้วน ไม่มีหน้าร้าน ไม่มีทุนใหญ่โตเหมือนคู่แข่งที่มีสาขาหลายร้อยแห่ง สิ่งเดียวที่ทำได้คือ สร้างตัวตนให้ทุกคนเห็นในทุกแพลตฟอร์ม

ต่อมาจึงใช้กลยุทธ์ Online to Offline เปิดสาขาแรกที่ ‘รามอินทรา’ ในปี 2563 หลังพบว่าลูกค้าขับรถจากกรุงเทพมาซื้อตรงถึง ‘นครนายก’ เป็นเวลาหลายปี สาขาแรกใช้เวลาเซ็ทอัปนานถึง 9 เดือนกว่าจะลงตัว

หลังจากนั้นประสบการณ์ช่วยให้การเปิดสาขาง่ายขึ้น ปัจจุบันมีมากกว่า 16 สาขา รวมถึงในหัวเมืองใหญ่อย่างโคราช ขอนแก่น หรือเชียงใหม่ และมีแผนจะเปิดเพิ่มปีละ 5-6 สาขา เพื่อแตะ 30 สาขาภายในไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเลือกทำเลจากดีมานด์จริง และพื้นที่ที่มีคำสั่งซื้อออนไลน์สูง

‘เปา’ มองว่าหน้าร้านของ iHAVECPU จริงๆ คือคอนเทนต์ ทั้งการขาย รีวิวสเปก คลิปเล่นเทรนด์ คำคม คอสเพลย์ ไปจนถึงสตรีมเกม กลายเป็นภาพจำที่ทำให้แบรนด์นี้ติดอยู่ในใจคนจำนวนมาก

กำไรตั้งแต่วันแรก

ตลอดเส้นทาง 12 ปี ‘เปา’ ย้ำว่า iHAVECPU ไม่เคยขาดทุนเลยแม้แต่ปีเดียว ตั้งแต่วันแรกก็ทำกำไรได้ทันที เขาเลือกที่จะไม่เล่นเกมตัดราคาในตลาด Red Ocean แต่สร้าง Blue Ocean ของตัวเอง ด้วยบทบาทของสตรีมเมอร์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ และผู้ขายคอมพิวเตอร์ ที่รวมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

“มันอาจเป็น Red Ocean ในวงการสตรีมเมอร์ แต่เป็น Blue Ocean สำหรับผมที่สตรีมแล้วมีคอมขาย”

ปัจจุบันรายได้ของ iHAVECPU แบ่งเป็นออฟไลน์ประมาณ 70% และออนไลน์ 30% กลุ่มลูกค้าหลักคือ คนที่อยากได้คอมพิวเตอร์ แต่ไม่อยากเสียเวลาประกอบเอง มีทั้ง Gen Y Gen Z และผู้ชายที่ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นหลัก

โดยงบกำไร-ขาดทุนของ ‘บริษัท ไอ แฮฟ ซีพียู จำกัด’ สะท้อนการเติบโตจากกลยุทธ์นี้อย่างชัดเจน:

  • ปี 2567 รายได้ 1,700.21 ล้านบาท กำไร 9.16 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,188.31 ล้านบาท กำไร 5.10 ล้านบาท
  • ปี 2565 รายได้ 1,019.77 ล้านบาท กำไร 3.69 ล้านบาท
  • ปี 2564 รายได้ 590.82 ล้านบาท กำไร 8.13 ล้านบาท
  • ปี 2563 รายได้ 291.17 ล้านบาท กำไร 1.03 ล้านบาท
  • ปี 2562 รายได้ 81.16 ล้านบาท กำไร 0.52 ล้านบาท
  • ปี 2561* รายได้ 13.72 ล้านบาท กำไร 0.34 ล้านบาท

*งบไม่เต็มปี 

ในปี 2568 ‘เปา’ คาดว่าจะปิดยอดขายที่ราว 2,700 ล้านบาท จากธุรกิจคอมประกอบเป็นหลัก พร้อมต่อยอดด้วยการคอลแลปกับแบรนด์ใหญ่ ผลิตการ์ดจอ แรม คีย์บอร์ด และเคสที่มีโลโก้ iHAVECPU ซึ่งเขายืนยันว่าเป็นรายแรกในไทยที่ทำรูปแบบนี้

ธุรกิจพีซีไม่มีวันตาย ถ้าใจสู้พอ

ความสำเร็จของ iHAVECPU มาจากการแก้ pain point ที่คนส่วนใหญ่มีต่อคอมประกอบ นั่นก็คือความยุ่งยาก ทั้งสเปก ซีพียู เมนบอร์ด การ์ดจอ

แต่ ‘เปา’ ทำให้ลูกค้ารู้สึกง่ายที่สุด เพียงบอกความต้องการแล้วได้สเปกพร้อมเครื่องที่ประกอบเสร็จ พร้อมใช้งานแบบ ‘Plug and Play’ และทดสอบจริงผ่านไลฟ์สดให้เห็นประสิทธิภาพแบบละเอียด

ลูกค้าจึงเชื่อมั่น เพราะบริษัทอธิบายทุกอย่างตรงไปตรงมา ทั้งข้อดีและข้อจำกัด ซึ่งเขามองว่านี่คือกุญแจในการสร้างลูกค้าตลอดชีวิต

‘เปา’ ยังเชื่อว่าธุรกิจคอมพิวเตอร์จะไม่ตาย แม้จะเคยมีข่าวว่าคอมพีซีจะถูกแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนแทนที่ แต่เขามองว่าพีซียังเป็นสิ่งที่มอบความสุขได้ ทั้งการดูหนัง เล่นเกม หรือทำงานกราฟิก และสิ่งที่มอบความสุขย่อมตายยาก

ธุรกิจนี้เติบโตได้เพราะ ‘ใจ’ ใจที่สู้ ใจที่ทุ่มเท เขาทำไลฟ์วันละ 4 รอบ คลิปอีก 2 ชิ้น คลิปสั้นอีก 20 ชิ้น และเชื่อว่าการทำงานหนักควบคู่กับการทำงานอย่างชาญฉลาดจะพาไปสู่ความสำเร็จ

“คุณต้องเป็นตัวจริงในสิ่งที่คุณขาย ต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำและตอบลูกค้าได้ทันที”

พร้อมทิ้งท้ายว่า แม้วันนี้ iHAVECPU จะประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่สำหรับเขามันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และอนาคตยังมีเส้นทางอีกยาวไกลให้เดินต่อไป

ที่มา: Scale Fast Summit & Expo 2025

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา