การซื้อรถคันแรกถือเป็นความภูมิใจของใครหลายคน แต่เมื่อได้รถมาแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการทำประกันรถยนต์เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หลายคนอาจรู้สึกสับสนว่า ควรเลือกแผนประกันแบบไหน บริษัทอะไร ควรซื้อผ่าน โบรกเกอร์ ประกันภัย หรือซื้อตรงกับบริษัทประกัน บทความนี้จะรวบรวมสิ่งที่มือใหม่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ครั้งแรก เพื่อให้คุณได้แผนประกันที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการมากที่สุด
ซื้อประกันรถยนต์ ต้องดูอะไรบ้าง
ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาให้รอบคอบ ดังนี้
1. ประเภทของประกันรถยนต์
ประกันรถยนต์แบ่งออกเป็นหลายประเภท แต่ละประเภทให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน มือใหม่ควรทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจเลือก
- ประกันภาคบังคับ (พ.ร.บ.) – เป็นประกันที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอกและผู้โดยสารในรถ ไม่ว่าผู้ขับขี่จะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินและตัวรถ หากต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม ต้องทำประกันภาคสมัครใจเพิ่ม
- ประกันภาคสมัครใจ ชั้น 1 – ให้ความคุ้มครองสูงสุด ครอบคลุมทั้งความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมถึงความเสียหายต่อตัวรถคันเอาประกันไม่ว่าจะเกิดจากการชน สูญหาย หรือไฟไหม้ เหมาะสำหรับรถใหม่หรือรถราคาแพง
- ประกันภาคสมัครใจ ชั้น 2+ – ให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันชั้น 1 แต่สำหรับการชน จะคุ้มครองตัวรถเฉพาะกรณีรถชนรถและมีคู่กรณีเท่านั้น
- ประกันภาคสมัครใจ ชั้น 2 – คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และคุ้มครองความเสียหายต่อรถคันเอาประกันเฉพาะกรณีไฟไหม้ หรือโจรกรรมเท่านั้น ไม่คุ้มครองกรณีรถชน
- ประกันภาคสมัครใจ ชั้น 3+ – คุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และคุ้มครองความเสียหายต่อรถคันเอาประกันเฉพาะกรณีรถชนรถและมีคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองกรณีไฟไหม้ หรือโจรกรรม
- ประกันภาคสมัครใจ ชั้น 3 – คุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถคันเอาประกัน
2. ทุนประกัน เบี้ยประกัน
ทุนประกัน คือวงเงินความคุ้มครองสูงสุดที่บริษัทประกันจะจ่ายให้เมื่อเกิดความเสียหาย ส่วนเบี้ยประกัน คือค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้บริษัทประกัน ควรเลือกทุนประกันที่ใกล้เคียงกับมูลค่ารถในปัจจุบัน ไม่ควรสูงหรือต่ำเกินไป เพราะจะส่งผลต่อเบี้ยประกันและค่าสินไหมทดแทนที่จะได้รับ นอกจากนี้ ควรเปรียบเทียบเบี้ยประกันจากหลายบริษัท เพราะแต่ละที่อาจมีโปรโมชันหรือส่วนลดที่แตกต่างกัน แม้ว่าความคุ้มครองจะใกล้เคียงกัน
3. ค่าเสียหายส่วนแรก
ค่าเสียหายส่วนแรก หรือที่เรียกว่า Deductible คือส่วนที่ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบเองเมื่อเกิดความเสียหาย ก่อนที่บริษัทประกันจะจ่ายส่วนที่เหลือ เช่น ถ้ามีค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท และค่าซ่อมรถ 10,000 บาท ผู้เอาประกันต้องจ่าย 2,000 บาท และบริษัทประกันจ่ายอีก 8,000 บาท การเลือกประกันที่มีค่าเสียหายส่วนแรกจะช่วยลดเบี้ยประกัน แต่ต้องพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
4. ซ่อมศูนย์ หรือซ่อมอู่
ซ่อมศูนย์ หมายถึงการนำรถยนต์เข้าซ่อมที่ศูนย์บริการมาตรฐานของยี่ห้อรถนั้น ๆ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีช่างผู้ชำนาญการที่ได้รับการฝึกอบรมจากผู้ผลิตโดยตรง มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย พร้อมทั้งใช้อะไหล่แท้จากโรงงาน ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยของการซ่อม
ซ่อมอู่ หมายถึงการนำรถยนต์เข้าซ่อมที่อู่ซ่อมรถทั่วไป ซึ่งมีทั้งอู่ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ อู่เหล่านี้อาจมีช่างผู้ชำนาญการที่มีประสบการณ์ อะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมอาจมีทั้งอะไหล่แท้และอะไหล่เทียบ ทำให้คุณภาพและความปลอดภัยของการซ่อมแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม การซ่อมอู่มักมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า และมีความยืดหยุ่นในการต่อรองราคามากกว่าการซ่อมศูนย์
5. ส่วนลดประวัติดี
ส่วนลดประวัติดี หรือ No Claim Bonus (NCB) เป็นส่วนลดที่บริษัทประกันมอบให้กับผู้เอาประกันที่ไม่มีการเคลมประกันในรอบปีที่ผ่านมา เป็นการตอบแทนผู้ขับขี่ที่มีความระมัดระวังในการใช้รถ ส่วนลดนี้จะสะสมเพิ่มขึ้นในแต่ละปีที่ไม่มีการเคลม โดยทั่วไปแล้วส่วนลดประวัติดีจะมีอัตราดังนี้
- ปีที่ 1 ไม่มีการเคลม ได้ส่วนลด 20%
- ปีที่ 2 ไม่มีการเคลม ได้ส่วนลด 30%
- ปีที่ 3 ไม่มีการเคลม ได้ส่วนลด 40%
- ปีที่ 4 ไม่มีการเคลม ได้ส่วนลด 50%
6. โบรกเกอร์ หรือบริษัทประกัน
การซื้อประกันรถยนต์สามารถทำได้โดยตรงกับบริษัทประกัน หรือผ่านโบรกเกอร์ซึ่งเป็นตัวกลางที่รวบรวมแผนประกันจากหลายบริษัท การซื้อผ่านบริษัทประกันโดยตรงอาจได้รับบริการและสิทธิพิเศษบางอย่างที่บริษัทประกันมอบให้ลูกค้าโดยตรง แต่การซื้อผ่านโบรกเกอร์มีข้อดีคือ ราคาถูกกว่า สามารถเปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัทได้ในคราวเดียว ทำให้เลือกแผนที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ โบรกเกอร์บางรายยังมีส่วนลดหรือโปรโมชันพิเศษที่ร่วมกับบริษัทประกันอีกด้วย
สรุปบทความ
การซื้อประกันรถยนต์ครั้งแรกอาจดูซับซ้อน แต่หากพิจารณาปัจจัยสำคัญอย่างรอบคอบ จะช่วยให้ได้แผนประกันที่คุ้มค่าและตรงกับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นประเภทประกัน ทุนและเบี้ยประกัน ค่าเสียหายส่วนแรก เงื่อนไขการซ่อม ส่วนลดประวัติดี และช่องทางการซื้อ ควรศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบจากหลายแหล่งก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ประกันที่คุ้มครองครบถ้วนในราคาที่เหมาะสม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา