นาทีนี้ในไม่ว่าบริษัทไหนจะมาแรงก็คงไม่แรงเท่ากับ Nvidia บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ที่มูลค่าบริษัทแซงหน้าไมโครซอฟท์ขึ้นเป็นบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้วสดๆ ร้อนๆ ในคืนที่ผ่านมา หลังจากหุ้นบวกต่อเนื่อง ส่งผลให้ Nvidia มีมูลค่ากิจการทะลุ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์
ตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ Nvidia มาอยู่ตรงนี้ คือ การเดินหน้าเข้าสู่ยุคของ AI ทำให้ความต้องการใช้เซมิคอนดักเตอร์หรือ ‘ชิป’ ที่เป็นสินค้าหลักของบริษัทพุ่งสูง จนทำให้รายได้ในไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
เบื้องหลังชัยชนะของ Nvidia จะขาดหัวเรือใหญ่ผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง ‘เจนเซน หวง’ ไปไม่ได้ กว่าจะถึงทุกวันนี้ ชีวิตของเจนเซน หวง ก็ผ่านอะไรมาไม่น้อยเหมือนกัน ลองมาดูกันว่าอะไรที่ทำให้ชายคนนี้พาบริษัทที่ร่วมก่อตั้งเองกับมือมาเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้
เกิดไต้หวัน เคยอยู่ไทย สู่การอพยพไปสหรัฐอเมริกา
‘เจนเซน หวง’ เกิดในปี 1963 ที่เมืองไถหนาน ประเทศไต้หวัน จากนั้นได้ย้ายเข้ามาอยู่ในไทยช่วงหนึ่งในช่วงวัยเด็ก ก่อนที่ในปี 1973 พ่อแม่ของหวงจะส่งลูกๆ ไปอยู่กับลุงและป้าในสหรัฐอเมริกาก่อนที่จะย้ายตามไปอยู่ด้วย เพราะความไม่สงบทางการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้หวงกลายเป็นผู้อพยพในสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ตอนนั้น
หวงเคยให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Wired ว่า เขาถูกลุงและป้าส่งไปเรียนที่โรงเรียนควบคุมพฤติกรรมแทนที่จะเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กทั่วไป เด็กในโรงเรียนค่อนข้างเกเร ทุกคนมีมืดพก และเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ประจำ จนกระทั่งเขาได้กลับมาอยู่กับครอบครัวในที่สุดในช่วงมัธยมปลายที่รัฐออริกอน
ในช่วงมหาวิทยาลัย เขาได้เข้าเรียนที่ Oregon State University ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าจนเรียนจบในปี 1984 ซึ่งในภายหลังก็ได้เรียนจบปริญญาโทสาขาเดียวกันนี้จาก Standford University ด้วย
ปี 1984 เป็นหมุดหมายสำคัญ กลายเป็นจังหวะประจวบเหมาะของชีวิต ‘เจนเซน หวง’ เมื่อคอมพิวเตอร์ Mac เครื่องแรกได้เปิดตัวในปีนั้นพอดี เท่ากับว่าเป็นยุคใหม่ของคอมพิวเตอร์ PC ตัวของหวงเองยังพูดว่า “เป็นปีที่เพอร์เฟ็กต์สำหรับการเรียนจบ”
หลังจากนั้น เขาเริ่มชีวิตการทำงานใน AMD บริษัทผู้ผลิตและพัฒนา CPU เป็นระยะสั้นๆ ไม่ถึงปี ได้ทำงานในฝ่ายออกเบบไมโครโปรเซสเซอร์ที่เป็นชิ้นส่วนขนาดเล็กที่สำคัญต่อหน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์ ซึ่งในตอนนั้นคงไม่มีใครนึกได้ถึงว่าต่อมา AMD และ Nvidia จะกลายเป็นคู่แข่งกัน
จากนั้น เขาได้เข้าไปทำงานที่บริษัท LSI Logic ในหลายตำแหน่งทั้งวิศวกรรม การตลาด และผู้จัดการทั่วไป LSI Logic เป็นบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลเครือข่ายในพื้นที่ต่างๆ เช่น ศูนย์ข้อมูล
Nvidia ธุรกิจที่เกิดขึ้นในร้านอาหารครอบครัว
และแล้วจุดเริ่มต้นของ Nvidia ก็เกิดขึ้นในปี 1993 เมื่อหวงได้ไปพบเพื่อนอีก 2 คน คือ Chris Malachowsky และ Curtis Priem ในร้านอาหารครอบครัว Denny’s ที่ตัวเขาเองเคยทำงานพาร์ทไทม์เมื่อสมัยยังเรียนอยู่
เพื่อนของหวงมีประสบการณ์มาจาก Sun Microsystems และ IBM ทั้ง 3 คนได้ระดมความคิดและตัดสินใจที่จะก่อตั้งบริษัทผลิตชิปประมวลผลกราฟิกขึ้นมาในระหว่างกินข้าว โดยใช้เงินทุนในตอนแรก 40,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.4 ล้านบาท
Nvidia ถูกก่อตั้งขึ้นมาในช่วงที่อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์เพิ่งรับรู้ถึงความสำคัญของ CPU โดยทีมผู้ก่อตั้งมองว่า CPU ไม่น่าจะแก้ปัญหาด้านคอมพิวเตอร์และการคำนวณทั้งหมดได้ แต่มองเห็นอนาคตของการประมวลผลแบบ Accelerated Computing ได้ชัดเจน
พวกเขามองว่าโลกจำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์ที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อตอบสนองกับ Accelerated Computing จนเกิดเป็น GPU ซึ่งกลายเป็นสินค้าบล็อกบัสเตอร์ตัวแรกของ Nvidia และเป็นนวัตกรรมแห่งวงการคอมพิวเตอร์กราฟิก
หวงพูดไว้ว่าการก่อตั้งบริษัทผลิต GPU ในยุครุ่งเรืองของ CPU เป็น “ความท้าทายทั้งเรื่องการตลาด เทคโนโลยี และ Ecosystem มีเปอร์เซ็นที่ธุรกิจจะสำเร็จอยู่ที่ 0%”
โชคดีที่ในที่สุดบริษัทได้รับเงินระดมทุนจาก Don Valentine หนึ่งในนักลงทุนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในอุตสาหกรรมในช่วงเวลานั้น เรียกว่ารอดมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปดอยู่เหมือนกัน กว่าจะเป็นหนึ่งในบริษัทแนวหน้าที่ขับเคลื่อนวงการ AI ให้พัฒนาต่อไปจนเฟื่องฟูได้
หวงกับภาพจำเสื้อแจ็คเก็ตหนัง
ปัจจุบันหวงวัย 61 ปีมีซิกเนเจอร์อยู่ที่การสวมแจ็คเก็ตหนังมามากกว่า 20 ปี จนสร้างภาพจำไปทั่วโลก
สไตลิสต์ด้านแฟชั่นแบบ Sera Murphy ได้แสดงความเห็นว่า เสื้อแจ็คเก็ตหนังช่วยทำให้หวงดูเป็นคนเข้าถึงได้ง่าย เป็นคนสบายๆ ในอีกทางหนึ่ง แจ็คเก็ตหนังอาจหมายถึงความตั้งใจที่จะแหกกฏ การทำอะไรแตกต่าง การท้าทายต่อสิ่งที่เคยมีมาอยู่แล้วด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย แนวคิด การดำเนินธุรกิจต่างก็สะท้อนตัวตนของหวงออกมาด้วยสารแบบเดียวกัน คือ ความกล้าทำสิ่งที่คนอื่นอาจจะยังไม่ได้ทำ คาแรคเตอร์แบบนี้ก็อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาเป็นผู้นำพา Nvidia สู่จุดสูงสุดในตอนนี้
ที่มา – BBC, Business Insider, Quartr, Companies Market Cap, AP
อ่านเพิ่มเติม
- AI ดันยอด! TSMC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เบอร์ 1 โลก ทำกำไรสุทธิ 2.55 แสนล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2024
- ไม่มาไทย แต่ไปอินโดฯ บริษัท Nvidia เตรียมสร้างศูนย์ AI มูลค่ากว่า 7.3 พันล้านบาท
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา