ไม่ต้องขายของ เพราะเธอขายเสียง! Taylor Swift ติด 1 ในรายชื่อเศรษฐีพันล้าน 2,871 คน จากการจัดอันดับของ Forbes ในปี 2024 อย่างเป็นทางการ เป็นนักร้องคนแรกที่ติดลิสต์รายชื่อจากรายได้ที่มาจากเพลงและคอนเสิร์ตเพียงอย่างเดียว
Swift ขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีพันล้านมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วก่อนที่ Forbes จะประกาศอย่างเป็นทางการในปีนี้ โดยมีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 4 หมื่นล้านบาทจากเพลงและการแสดงคอนเสิร์ตเพียงอย่างเดียว ไม่มีรายได้จากแบรนด์ การร่วมทุนทางธุรกิจ และกิจกรรมที่สร้างเม็ดเงินอย่างอื่น
รายได้ของ Swift กว่า 500 ล้านเหรียญโดยประมาณมาจากค่าลิขสิทธิ์เพลงและทัวร์คอนเสิร์ต รวมกับมูลค่าของเพลงอีกราว 500 ล้านเหรียญและทรัพย์สินจากอสังหาริมทรัพย์อีกราว 125 ล้านเหรียญจากข้อมูลของ Forbes
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา Swift ได้ปล่อยอัลบั้มที่ได้รับความนิยมอย่างมากหลายอัลบั้มด้วยกัน รวมถึงมีความทุ่มเทในการนำอัลบั้มเก่ามาอัดใหม่อีกครั้ง (ทั้งหมดมี 6 อัลบั้ม ปัจจุบันอัดและปล่อยออกมาแล้ว 4 อัลบั้ม) เพื่อที่จะได้สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของเพลงหลังจากที่สูญเสียสิทธิ์ให้กับ Scooter Braun ที่ซื้อค่าย Big Machin Records ในปี 2019 ซึ่งเป็นค่ายเดิมที่ Swift เซ็นสัญญาด้วยกว่า 10 ปี
นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา Swift ยังเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกที่มีรายงานว่าสร้างรายได้เป็นประวัติการณ์ถึง 4.1 พันล้านเหรียญให้และกลายเป็นทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้มากที่สุดตลอดกาล
มีผู้มีชื่อเสียงอีกหลายคนที่อยู่ในรายชื่อเศรษฐีพันล้านของ Forbes อย่างตำนานนักบาสเก็ตบอลยุค 80 อย่าง Magic Johnson หรือ Rihanna นักร้องดังที่ผันตัวเป็นเเม่ค้าเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางอย่าง Fenty Beauty ที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญ รวมทั้ง Michael Jordan นักบาสเก็ตบอลระดับเป็นหน้าตาของวงการ NBA ที่เป็นพาร์ทเนอร์ตลอดชีวิตกับกับ Nike
ส่วนผู้ที่มาเป็นอันดับ 1 บนรายชื่อของ Forbes คือ Bernard Arnault ซีอีโอเจ้าของอาณาจักรสินค้าแบรนด์เนม LVMH ที่มีทรัพย์สินอยู่ราว 2.33 แสนล้านเหรียญ (ราว 8.1 ล้านล้านบาท)
ตามมาด้วยอันดับที่ 2 อย่าง Elon Musk ซีอีโอของ Tesla และ SpaceX เจ้าของทรัพย์สิน 1.95 แสนล้านเหรียญ (ราว 7.15 ล้านล้านบาท) และอันดับที่ 3 อย่าง Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ที่มีทรัพย์สิน 1.94 แสนล้านเหรียญ (ราว 7.11 ล้านล้านบาท)
อ่านเพิ่มเติม
- จาก Taylor Swift สู่ Experience Economy: เมื่อคนรุ่นใหม่ยอมจ่ายเพื่อประสบการณ์ แล้วไทยจะคว้าโอกาสนี้ได้ไหมในระยะยาว?
- อินโดนีเซียเตรียมทุ่มงบดึงศิลปินเล่นคอนเสิร์ตตามสิงคโปร์ มอง “Swiftonomics” กระตุ้นการท่องเที่ยว
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา