ถ้าพูดถึงหนึ่งในโครงการ Mixed-Use ที่น่าจับตามอง หนึ่งในนั้นต้องมี One Bangkok โครงการที่ผสมผสานความหลากหลายไว้ในที่เดียว ทั้งโรงแรมหรู, ที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า ไปจนถึงพื้นที่เพื่อสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ แนวคิดนี้ถือว่าไม่ธรรมดา และยิ่งอยู่บนทำเลหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 เรียกว่าใจกลางเมืองแบบสุดๆ จนหลายคนเชื่อว่า นี่อาจเป็นโครงการที่ยกระดับของกรุงเทพฯ ให้แตกต่างไปจากเดิม
ก่อนจะเดินทางไปถึงการเปิดให้บริการเฟสแรกในช่วงปลายปีนี้ ปี 2567 ลองมาดูแนวคิดและคอนเซ็ปต์ในการพัฒนา One Bangkok พร้อมกับตั้งคำถามว่า อะไรทำให้ One Bangkok ตั้งเป้าหมายในการเป็น ‘เมืองกลางใจของทุกคน’ หรือ ‘One Bangkok, The Heart of Bangkok’
ไม่ใช่แค่ใจกลางเมือง แต่คือ “เมืองกลางใจ” The Heart of Bangkok
One Bangkok มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท บนพื้นที่ 108 ไร่ อนาคตจะเป็นแลนด์มาร์คระดับโลกแห่งใหม่ ภายในโครงการประกอบด้วย อาคารสำนักงานระดับเกรด A, ที่พักอาศัยระดับ Luxury, โรงแรมหรู จำนวน 5 โรงแรม และพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง 50 ไร่เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
ตัวโครงการตั้งอยู่บนหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 เป็นแหล่ง CBD อยู่ระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ ซึ่งเป็นเสมือนปอดของกรุงเทพฯ เชื่อมต่อโดยตรงกับรถไฟฟ้าและทางด่วน มีอาคารสำนักงานต่างๆ มากมายอยู่รายล้อม
ทั้งหมดเป็นไปตามแนวคิดแรกของการเป็น The Heart of Bangkok คือ Prime Location Hub หรือเรียกว่ามีทำเลที่ดีที่สุดบนพื้นที่ที่ดีที่สุด เพื่อให้การเชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยยกระดับมาตรฐานทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ และประเทศไทย เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้กับทุกคนโดยรอบ และยังสามารถเดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลาย
ความยั่งยืน คือ หัวใจสำคัญของคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
สิ่งที่อาคารยุคใหม่ต้องให้ความสำคัญคือ เรื่องของความยั่งยืน ต้องประหยัดพลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งที่ One Bangkok มีการติดตั้ง Smart Technologies ทำให้ที่นี่เป็นโครงการอัจฉริยะสีเขียว โดยมีศูนย์กลางระบบอัจฉริยะที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักของโครงการ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากรและดูแลทุกชีวิต
ดังนั้น นอกจากความสะดวกสบายสำหรับทั้งผู้อยู่อาศัยในอนาคต ยังรวมถึงผู้ที่มาใช้บริการอีกด้วย ถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิต อีกทั้งยังมาพร้อมกับความปลอดภัยขั้นสูงสุดให้กับทุกคน
One Bangkok มีพื้นที่เปิดโล่งภายในโครงการกว่า 50 ไร่ ถือเป็นส่วนต่อขยายจากสวนลุมพินี และสวนเบญจกิติ เท่ากับว่าคนกรุงเทพฯ จะมีพื้นที่สีเขียวบริเวณใจกลางเมืองเพิ่มมากขึ้น โดยทางเดินภายในโครงการจะมีลักษณะเป็น Walkable Neighborhood ทางเดินปกคลุมด้วยร่มเงาจากต้นไม้ สามารถเดินเข้าถึงทุกพื้นที่ในโครงการได้ภายใน 15 นาที ตามแนวคิด 15-Minute Walking City
นั่นแสดงให้เห็นถึงอีกหนึ่งแนวคิดของการเป็น City Living Redefined ที่สร้างมาตรฐานและคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัย ผู้ใช้อาคารและผู้มาเยือน มีนวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูงเพื่อให้บริการ สร้างความยั่งยืนและปลอดภัย หรือที่เราเรียกกันว่า Smart City
โดย One Bangkok เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED for Neighborhood Development ระดับ Platinum รวมถึง WiredScore และ SmartScore ระดับ Platinum เพื่อยืนยันว่านี่คือโครงการที่เป็นเลิศด้านเทคโนโลยี และยังมุ่งสู่การรับรองมาตรฐาน WELL ระดับ Platinum เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อาศัยและผู้ใช้อาคารอีกด้วย
แนวคิดนี้ตรงกับหลักการที่ว่า เมืองที่คนสามารถเดินได้จะยกระดับพัฒนาทั้งความคิดและสุขภาพไปด้วยกัน กล่าวได้ว่า One Bangkok ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ทั้งสิ่งแวดล้อม พลังงาน และสังคมไปพร้อมกัน
3 ศูนย์การค้า 3 แนวคิดสู่การเป็น ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่
One Bangkok Retail ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ โดยเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว มาแล้วได้ครบ
ที่นี่ทุกคนจะได้รับประสบการณ์พิเศษในทุกวันจากพื้นที่ที่เป็นแรงบันดาลใจ ที่ผสมผสานจากความหลากหลายของผู้คน ร้านค้า อาหาร ศิลปะและวัฒนธรรม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ One Bangkok ที่ลงตัวที่สุดกับคำว่า The Heart of Bangkok โดยมี 3 ห้าง 3 แนวคิด เพื่อตอบทุกความต้องการของคนยุคใหม่ ประกอบด้วย
- Parade กับแนวคิด A World of Choice Without Limits สีสันแห่งชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด ผสมผสาน Shop-Play-Work-Eat สำหรับทุกคนในครอบครัว รวมร้านค้าแบรนด์ดัง สุดยอดร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ตที่รวมสินค้าจากทั่วโลกมาไว้ที่นี่
- The STOREYS กับแนวคิด Tell Your Own Story at THE STOREYS รวมความคิดสร้างสรรค์จากทั่วโลกมาไว้ที่นี่ ร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ผสมวัฒนธรรมท้องถิ่น และยังมีร้านอาหาร บาร์แอนด์บิสโทร และเป็นแหล่ง Hang out ยามค่ำคืนอีกด้วย
- POST 1928 กับแนวคิด Go Beyond Luxury เปิดประสบการณ์กับ Shopping Street รวมร้านค้าแฟลกชิปสโตร์แบรนด์ดังระดับโลก มาให้ช้อปกันแบบจุใจ
พื้นที่นี้เรียกได้ว่าเป็นไปตามแนวคิดการเป็น Fully Integrated Experience with Community Spirit คือ ประสบการณ์ที่ให้กับทุกคนต้องมีความหลากหลายแบบไร้ขีดจำกัด มีความครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านชอปปิงหรือไลฟ์สไตล์ ที่เปิดรับทุกความต้องการ
พื้นที่แห่งศิลปะ วัฒนธรรม การสร้างสรรค์และเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ช่วยเติมสีสันที่แตกต่างและหลากหลาย และที่สำคัญคือช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆให้กับทุกคน ผสานรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับการใช้ชีวิตในทุกวัน
อีกส่วนที่สร้างความแตกต่างให้กับ One Bangkok คือ การมีสำนักงานเกรด A เตรียมให้บริการ ประกอบด้วย One Bangkok Tower 1-5 เป็นการยกระดับมาตรฐานการทำงาน เป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดให้คนที่มีความสามารถ เป็น Hub of Visionary ที่มีวิสัยทัศน์เข้ามาอยู่รวมกัน แลกเปลี่ยน สร้างการ Collaboration & Interaction และยังเป็น Inspiration ที่ส่งผ่านถึงกัน และสุดท้ายคือเป็นพื้นที่แห่งการต่อยอดทางธุรกิจ ต้นแบบแห่งอนาคตที่ก้าวผ่านทุกขีดจำกัดอย่างเหนือระดับ
อนาคตกับโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ Luxury ที่เหนือระดับ
One Bangkok เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีที่พักอาศัยระดับ Luxury และ 5 โรงแรมหรู อาทิ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ กับประสบการณ์บริการระดับเวิลด์คลาส, แอนดาซ วัน แบงค็อก ลักซ์ชัวรีไลฟ์สไตล์ กับเอกลักษณ์ระดับท้องถิ่นที่โดดเด่น และเฟรเซอร์ สวีทส์ กรุงเทพฯ แฟล็กชิปเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ทั้งหมดจะตอบโจทย์คนจากทุกมุมโลก
ทำให้ One Bangkok เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลกต้องมาสัมผัสบริการที่ผสานความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ในมาตรฐานระดับสากล พร้อมด้วยบริการที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย จึงเป็นตัวเลือกระดับท็อปในใจตั้งแต่ Boutique Business ไปจน Luxury ให้กับทุกคนที่มาเยือน
นอกจาก One Bangkok จะมีแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ครบครันแล้ว One Bangkok ยังสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยที่พักอาศัย ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตบนทำเลเด่นใจกลางเมือง มีการจัดแบ่งพื้นที่ที่หลากหลายตลอดจนฟีเจอร์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ บนทำเลที่ดีสุดแวดล้อมด้วยสถานทูตนานาชาติ พร้อมด้วยทัศนียภาพอันงดงามของสวนลุมพินีและเส้นขอบฟ้าของมหานคร
One Bangkok ผสมผสานและพัฒนาสู่ เมืองต้นแบบในการสร้างกรุงเทพฯ ยุคใหม่
One Bangkok ต้องการเป็นพื้นที่สำหรับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย เป็นเมืองกลางใจของทุกคน ต้องบอกว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่การวางแผนอย่างดีระดับมาสเตอร์แพลน เชื่อว่าจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้
สุดท้ายอยากให้ทุกคนรอไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า ประสบการณ์ที่ได้รับจะพิเศษกว่าที่อื่นๆ หรือไม่ นี่คือเรื่องเดียวที่บอกแทนกันไม่ได้
นับเวลาถอยหลังได้เลย พิสูจน์พร้อมกัน ปลายปี 2567 นี้
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา