แม้ว่าจะมีกระแสข่าวลบจาก P Series มาหมาดๆ แต่เมื่อดูผลประกอบการในครึ่งปีแรกของ HUAWEI แล้ว ถือว่าไม่กระทบหนัก เพราะยอดขายเครื่องโตขึ้น 8 เท่า มีมูลค่าเพิ่มถึง 5 เท่า กินส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนไทยไปแล้วกว่า 10.7% ส่วนท้ายปีเตรียมพบกับรุ่นใหม่กันได้เลย
กระแสข่าวลบ กระทบความเชื่อมั่นแค่ในระยะสั้น
ทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการ หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) ระบุว่า “สำหรับกระแสในรุ่น P Series ยอมรับว่ากระทบต่อความเชื่อมั่นจริง แต่ในระยะสั้นเท่านั้น ส่วนที่ยืนยันได้คือ HUAWEI ไม่ได้โฆษณาเกิดจริงอย่างแน่นอน”
เพราะยอดขายในครึ่งปีแรกไปได้สวย ภาพรวมทั้งโลกคือขายได้ 73 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 20.6% ส่วนในไทยมียอดขายเครื่องเพิ่มขึ้น 8 เท่า (HUAWEI ไม่เปิดเผยตัวเลขเป็นจำนวนชิ้น) ในแง่มูลค่าเพิ่มขึ้น 5 เท่า ส่งผลให้ HUAWEI ครองตลาดสมาร์ทโฟนในไทยได้ถึง 10.7% (ในเดือนพฤษภาคม) ถือว่าห่างจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วอยู่มากที่มียอดอยู่เพียง 1.2% เท่านั้น
HUAWEI ได้วิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จในครึ่งปีแรกไว้ดังนี้
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ HUAWEI บอกว่าลงทุนกับส่วนนี้มากที่สุด คือการลงทุนใน R&D เพื่อพัฒนานวัตกรรมให้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ AI, Machine Learning, Big Data, IoT โดย HUAWEI ระบุว่าลงเงินไปกับส่วนนี้ถึง 10% จากยอดขายในแต่ละปี
- การขยายช่องทางจัดจำหน่าย ส่วนนี้ก็สำคัญ ถ้าดูตัวเลขของทั้งโลก HUAWEI มีร้านจัดจำหน่ายกว่า 42,300 แห่ง ส่วนในไทย HUAWEI มีช็อปทางการเพียง 41 แห่ง แต่ถ้านับดูที่จุดขายในประเทศไทยจะพบว่า ก่อนหน้าที่มีเพียง 1,000 จุด ตอนนี้ HUAWEI ได้ขยายให้ครอบคลุมถึง 9,000 จุดแล้ว ส่วนสิ้นปีนี้คาดว่าจะขยยให้ถึง 10,000 จุดขายอย่างแน่นอน
- การสร้างแบรนด์ จากการจัดอันดับของสื่อและองค์กรระดับโลก แบรนด์ HUAWEI เป็นแบรนด์ที่มีอันดับดีขึ้น เช่น อยู่อันดับที่ 83 บน Fortune’s Global 500, อันดับ 88 บนนิตยสาร Forbes’ the World Most Valuable Brand และ อันดับ 72 บน Interbrand
- การยกระดับบริการหลังการขาย แม้ว่า HUAWEI จะมีศูนย์บริการหลังการขายทั้งหมด 14 แห่งในไทย แต่มีจุดรับเครื่องเพื่อส่งต่อศูนย์บริการ (Collection Point) กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ส่วนล่าสุด ยังได้ส่งบริการที่เรียกว่า “Door to Door Service” คือหากเครื่องมีปัญหา HUAWEI จะส่งพนักงานไปรับของจากหน้าประตูบ้านเพื่อนำมาซ่อม พร้อมทั้งส่งกลับไปให้ถึงหน้าบ้านเลยเช่นเดียวกัน โดยทั้งหมดนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ รวมถึงยังมี Daimond Service ที่ขยายการรับประกันโทรศัพท์ถึง 2 ปีอีกด้วย
แผนระยะสั้นคือครึ่งปีหลังนี้จะโตขึ้นอีก ส่วนระยะยาวเร่งใช้ AI พัฒนานวัตกรรม
ครึ่งปีหลังนี้ HUAWEI มองว่าเศรษฐกิจจะไปได้ดี ตั้งเป้าไว้ที่การเติบโต 3 เท่าจากปีก่อน แม้ว่าจะมีส่วนแบ่งตลาด 10.7% แต่ HUAWEI ก็คาดว่าจนสิ้นปีนี้จะโตขึ้นไปได้อีกอย่างน้อยก็ 1 digit
ส่วนนวัตกรรมที่ HUAWEI จำเป็นต้องทำเพื่อตอบโจทย์ตลาดมีดังนี้
- กล้องต้องดีขึ้น ทั้งกล้องหน้าและกล้องหน้า เพราะ 60% ของคนที่ใช้สมาร์ทโฟน ใช้ Selfie เป็นหลัก ส่วนผลสำรวจบอกว่าผู้ใช้กว่า 70% ต้องการกล้องที่ดีขึ้น
- เกมบนมือถือ ตัวเลขคนที่เล่นเกมบนสมาร์ทโฟนทั่วโลกปัจจุบันอยู่ที่ 2,700 ล้านคน ต่างกับอดีตมากที่มีเพียง 100 ล้านคนเท่านั้น
- วิดีโอ กว่า 90% ของคนที่ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันดูวิดีโอออนไลน์กันเป็นประจำ
- IoT ด้านสุขภาพ กว่า 88% ของคนที่มีสมาร์ทโฟน เคยใช้แอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับสุขภาพ
เป้าของ HUAWEI ต่อจากนี้จึงเป็นการทำให้ “โทรศัพท์ฉลาดขึ้น” ด้วยการนำเอา AI เข้ามาช่วยทำให้การใช้สมาร์ทโฟนล้ำหน้ามากขึ้น แต่ทั้งหมดนี้ต้องไปพร้อมๆ กับการตอบโจทย์ตามพฤติกรรมลูกค้าที่ได้บอกไปคือ กล้อง เกม วิดีโอ และสุขภาพ
เท่าที่ HUAWEI ให้ฟังมาบ้างก็อย่างเช่น การใช้ AI มาทำ Chipset ที่จะประมวลผลดีขึ้น ส่งผลให้การใช้งานดีขึ้น แบตเตอรี่ใช้ได้นานมากขึ้น หรือการทำ Cloud Service ที่ต้องใช้ Big Data เพื่อสร้างข้อเสนอให้ลูกค้าอย่างตรงจุด
สรุป
กระแสจากรุ่น P Series อจทำให้กระทบความเชื่อมั่นของลูกค้าในระยะสั้น แต่ระยะยาว HUAWEI มั่นใจว่าการวางกลยุทธ์ที่ครอบคลุมจะทำให้เดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นทั้งการขยายฐานบริการ การบริการหลังการขาย การลงทุนใน R&D และที่สำคัญคือ HUAWEI เน้นย้ำว่า การนำเอา AI เข้ามาใช้อย่างจริงจัง เพราะต้องการทำให้ “โทรศัพท์ฉลาดขึ้น” ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตอบสนองผู้บริโภคอย่างเต็มที่นั่นเอง
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา