KBTG ตั้งสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม เป็นสาขาที่ 3 ในเอเชีย ผลักดันไปสู่ IT Hub ในภูมิภาค

KBTG ประกาศจัดตั้งบริษัท KBTG Vietnam พร้อมเปิดสำนักงานใหญ่ที่นครโฮจิมินห์ นับเป็นสาขาที่ 3 ในทวีปเอเชีย ตั้งเป้าเสาะหาบุคคลากรคุณภาพสายไอทีที่มีทักษะเทคโนโลยีสำคัญร่วมเสริมทีม เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของ KBank ที่มีกลยุทธ์ขยายตลาดการให้บริการทั้งในเวียดนามและในภูมิภาค AEC+3 ในรูปแบบธนาคารดิจิทัล และผลักดัน KBTG ให้เป็นที่หนึ่งด้านเทคฯ ในภูมิภาค พร้อมสนับสนุนธนาคารกสิกรไทยสู่เป้าหมายการเป็น 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนาม ภายในปี 2570 

KBTG

ทางธนาคารกสิกรไทยมีการขยายออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนมาซักพักแล้ว ทั้งลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย และเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนามอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่ล่าสุดบริษัทเทคในเครืออย่าง KBTG จะตามไปตั้งสำนักงานใหญ่ที่นครโฮจิมินห์ด้วย นับเป็นสาขาที่ 3 ในเอเชีย ต่อจากสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพ สำนักงาน KTech ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าเศรษฐกิจใน AEC+3 มีความสำคัญในการเป็นตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยประชากรวัยหนุ่มสาว และมีการขยายตัวของดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโตต่อไปได้ในระยะข้างหน้า ธนาคารจึงเดินหน้าขยายบริการในภูมิภาคเพื่อเชื่อมต่อโอกาสให้แก่ธุรกิจไทย และส่งมอบบริการให้แก่ลูกค้ารายย่อยและผู้ประกอบการในประเทศท้องถิ่น ด้วยการใช้กลยุทธ์การขยายธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนในรูปแบบธนาคารดิจิทัล (Regional Digital Expansion) ที่เน้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เสริมทัพทีมงาน การลงทุนในสตาร์ทอัพ และกิจการในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจและเทคโนโลยี ส่งมอบบริการบนดิจิทัลสู่ผู้ใช้งานในท้องถิ่นได้อย่างคล่องตัวสูง ซึ่งจะทำให้ธนาคารกสิกรไทยเป็นธนาคารยุคใหม่แห่งภูมิภาค AEC+3  พร้อมเป้าหมายการเป็น 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดในประเทศเวียดนามได้ภายในปี 2570 

ขณะที่ในมุมของ KBTG ก็มีการพัฒนาการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองกลยุทธ์ของธนาคารกสิกรไทยในการขยายธุรกิจออกไปสู่ภูมิภาคอาเซียนในรูปแบบธนาคารดิจิทัล พร้อมรับมือกับความท้าทายในสถานการณ์ Talent War ในประเทศไทย KBTG จึงดำเนินการเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อสรรหาบุคคลากรที่มีศักยภาพตรงความต้องการ เพื่อมารองรับธุรกิจของธนาคารทั้งในไทยและระดับภูมิภาค

ข้อได้เปรียบในการไปจัดตั้งสำนักงานในเวียดนาม เนื่องจากบุคลากรทางด้านไอทีและมีนักศึกษาสาขา STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เป็นอันดับต้น ๆ ของอาเซียน รวมถึงมีวัฒนธรรมการทำงานที่คล้ายคลึงกันกับประเทศไทย โดยนางวรนุช เดชะไกศยะ Executive Chairman ของ KBTG คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนบุคลากรที่ต้องเข้ามาเสริมทีมเพิ่มขึ้น รวมกว่า 500 ตำแหน่งในอีก 3 ปีข้างหน้า และจะก้าวขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับภูมิภาค (Regional Tech Company) ภายในปี 2568 ตามเป้าหมายที่วางไว้

ทั้งนี้ การที่ KBTG มีฐานทัพและบุคลากรมากฝีมือทั้งในประเทศไทย ประเทศจีน และประเทศเวียดนาม จะช่วยให้สามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันของทั้ง 3 ประเทศ สามารถดึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญในแต่ละส่วนมาประกอบกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคนิค รวมถึงทักษะด้านต่างๆ ที่สำคัญ เช่น AI, Blockchain, Supply Chain, Coding Methodology ของ KBTG ให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบให้กับลูกค้าทั้งในไทย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ทั่วภูมิภาค  

นายธนุสศักดิ์ ธัญญสิริ Managing Director บริษัท KBTG Vietnam เผยว่าในปี 2566 มุ่งเป้าไปที่การสรรหาบุคคลากรไอทีกลุ่มแรกจำนวน 200 คน เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับธนาคารกสิกรไทยและธุรกิจต่างประเทศ ร่วมสร้างและพัฒนาแอปพลิเคชัน K PLUS Vietnam ซึ่งเป็นบริการเรือธง (Flagship Product) ของธนาคารกสิกรไทย มีผู้ดาวน์โหลดใช้งานแล้วจำนวนกว่า 600,000 คน และจะเป็นแพลตฟอร์มบริการสำคัญที่ใช้รองรับการขยายฐานลูกค้าของธนาคารในประเทศด้วยเป้าหมายในปี 2566 กว่า 1.3 ล้านคน

นอกจากนี้ ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการขยาย K PLUS ไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ส่งเสริมให้ KBTG Vietnam มีพื้นฐานในการส่งมอบซอฟต์แวร์ ด้วยหลักการ 3S คือ รวดเร็ว (Speed) เพิ่มขนาด (Scale) และยั่งยืน (Sustain) โดยมี Software Methodology ระดับโลกและ Tech Capability ที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับ KBTG ที่ไทย โดยนำกรณีศึกษาทั่วโลกมาประยุกต์ใช้ อีกทั้งยังจัดตั้งออฟฟิศ KBTG Vietnam สาขากรุงฮานอย เพื่อรองรับพนักงานที่อยู่ต่างเมืองและไม่สะดวกย้ายมาทำงานที่นครโฮจิมินห์ และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึง Tech Talents มากยิ่งขึ้น 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา