รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงกฎ ให้แรงงานที่มีทักษะและมีรายได้สูงเป็นผู้อาศัยในญี่ปุ่นอย่างถาวรได้หลังจากเข้ามาในญี่ปุ่นเพียงปีเดียว เพื่อดึงแรงงานทีมีความสามารถเข้าประเทศ
ปัจจุบัน ญี่ปุ่นให้วีซ่ากับแรงงานที่มีทักษะสูงโดยระบบการให้คะแนนที่วัดจากปัจจัยสำคัญอย่างประวัติการศึกษา ประสบการณ์ทำงาน และผลงานด้านการทำวิจัย แรงงานประเภทนี้จะสามารถอาศัยในญี่ปุ่นโดยถาวรหลังจากทำงานได้ช้าสุด 3 ปี หลังจากเริ่มเข้ามาทำงานแทนที่จะเป็น 10 อย่างในกรณีแรงงานทั่วไป
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจย่นระยะเวลาให้สั้นลงอีก โดยให้แรงงานที่มีทักษะสามารถอาศัยในญี่ปุ่นถาวรได้หลังจากทำงานเพียงปีเดียว โดยคาดว่าจะปรับใช้ในเดือนเมษายนนี้
กลุ่มที่ได้รับสิทธินี้คือนักวิจัยและวิศวกรที่มีรายได้ต่อไปอย่างน้อย 20 ล้านเยนหรือราว 5.1 ล้านบาทและจบการศึกษาอย่างน้อยในระดับปริญญาตรีหรือมีประสบการณ์ในการทำงานอย่างน้อย 10 ปี
กฎใหม่จะยังปรับใช้กับบุคคลที่ทำงานด้านธุรกิจที่มีรายได้อย่างน้อย 40 ล้านเยนหรือราว 10 ล้านบาทต่อปีและมีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 5 ปีด้วย ส่วนคู่สมรสที่ของบุคคลที่ได้รับวีซ่าอยู่อาศัยถาวรก็สามารถเข้ามาทำงานเต็มเวลาในญี่ปุ่นได้ในหลากหลายสาขางาน โดยในเดือนมกราคมถึงมิถุนายนมีแรงงานจำนวน 3,275 รายที่คุณสมบัติเข้าเกณฑ์ของกฎใหม่ที่เพิ่งจะเปลี่ยนแปลงนี้
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ผู้สำเร็จการศึกษาอย่างน้อยในระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลกสามารถอาศัยในญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 2 ปี เพื่อหางานทำ จากปัจจุบันที่อนุญาตให้อยู่ได้เพียง 90 วัน โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลนั้นจะต้องสำเร็จการศึกษาภายในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจากมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด 2 ใน 3 จาก 100 อันดับแรกจากการจัดอันดับโดยองค์กรของอังกฤษและจีนเท่านั้น ผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขจะสามารถพาครอบครัวเข้ามาอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยได้
ท่ามกลางบรรยากาศที่แต่ละประเทศสรรหาคนมีความสามารถเข้ามาทำงานในประเทศเพื่อสร้างนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศเดียวที่มีโครงการแบบนี้ อังกฤษและสิงคโปร์เองก็มีเช่นกัน
Koji Yamawaki ทนายความและผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการอพยพของแรงงานเข้ามาในญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นยังประสบปัญหาที่จะดึงดูดแรงงานที่มีความสามารถเข้าประเทศ เพราะมีค่าแรงเฉลี่ยต่ำกว่าประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและประเทศในยุโรป
ปีที่แล้ว ค่าแรงเฉลี่ยในฝั่งสารสนเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นอยู่ที่ราว 1.3 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของค่าแรงเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกา และคิดเป็นราว 70% ของค่าแรงในเยอรมนี
ญี่ปุ่นจัดอยู่ในอันดับที่ 25 จากทั้งหมด 35 ประเทศที่ดึงดูดแรงงานที่มีการศึกษาระดับสูงจากการจัดอันดับขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ในปี 2019 โดยอยู่อันดับต่ำในเรื่องของโอกาสในการทำงานและสภาพแวดล้อมของครอบครัว ญี่ปุ่นยังคงต้องหาทางเพิ่มโอกาสก้าวหน้าในอาชีพให้กับแรงงานต่างชาติเพื่อดึงดูดแรงงานที่มีความสามารถแข่งกับสหรัฐอเมริกาและยุโรป
ที่มา – Nikkei Asia
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา