ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้ารับตำแหน่งวันแรก: เน้นทำงานโปร่งใส นโยบายหลายเรื่องทำได้ ไม่ใช้เงิน

ชัชชาติเริ่มด้วยการขอบคุณประชาชนก่อน ตามด้วยเจ้าหน้าที่ที่เหลือ ย้ำกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ใช่นาย ไม่ต้องเรียกว่านาย ให้เรียกว่าอาจารย์ดีกว่า ไม่ได้มาเป็นนาย เป็นเพื่อนร่วมงานทุกคน อยากให้เดินไปด้วยกัน มีอะไรคุยกันได้ ถ้าทำอะไรไม่เหมาะบอกได้ ตัวอย่างนโยบาย 214 ข้อที่คิดมา ช่วยอ่านและฟีดแบคว่าดีไม่ดีอย่างไรบ้าง ควรปรับปรุงอย่างไรบ้าง หลายเรื่องพวกเรารู้ดีกว่าผม อยากเพิ่มเป็น 300 ข้อก็ได้

1. มาเป็นเพื่อนร่วมงาน เดินไปด้วยกัน พูดคุยกัน มีอะไรอย่าเก็บไว้ในใจ
2. ความโปร่งใส สุจริต อันดับ 1 จะไม่ทนต่อการทุจริต คอรัปชั่น เริ่มมีคนแอบอ้างชื่อแล้ว ทั้งอ้างทีมงาน คนอื่นแอบอ้าง ถ้ามีให้แจ้งทีมงานได้ มาด้วยความโปร่งใส สุจริตจริง อยากให้ กทม. มีชื่อเสียงตรงนี้ เชื่อว่าทุกคนอย่างทำงานให้โปร่งใส อยากได้ความยุติธรรมในการแต่งตั้ง
3. ผมเป็นคนตื่นเช้า ไม่ต้องตื่นเช้าตามผม ไม่ต้องกังวล ทุกคนมีหน้าที่ภารกิจที่ต้องทำ ไปส่งลูก ไม่จำเป็นต้องมาเยอะ ต้องตอบให้ได้ว่ามาทำไม มาเฉพาะจำเป็น ไปไหนไม่ได้บอกล่วงหน้า เพราะเกรงใจ เวลาลงพื้นที่เอาที่จำเป็น
4. ไม่ต้องมีป้ายชื่อผม ไม่ต้องการประชาสัมพันธ์ตัวเอง ไม่ต้องเอาชื่อหรือรูปไปติด เวลาไปไหนขอความเรียบง่าย จำนวนน้อย อย่าทำความเดือนร้อนให้ประชาชน
5. ปีหนึ่งก็จะเวียนใหัครบทั้ง 50 เขต ไปเยี่ยมอยู่แล้ว ขอให้แต่ละเขตปลูก 20,000 ต้น อาทิตย์ละ 100 ต้น ช่วยกันคิดว่าจะช่วยกันปลูกอย่างไรได้บ้าง เดี๋ยวมีรายละเอียดค่อยว่ากันอีก

ขอฝากเนื้อฝากตัว Radical transparent ทุกคนมีอะไรอย่าเก็บไว้ในใจ เรื่องงานพูดด้วยเหตุผล เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย พูดแล้วจบ อย่าเก็บไว้ในใจถ้าไม่เห็นด้วย สุดท้ายจะได้งานที่ทุกคนไปด้วยกันได้ ผมถึงไม่อยากเป็นนาย เพราะเป็นนายเราไม่กล้าเถียง ถ้าเป็นเพื่อนร่วมงานทุกคนจะกล้าพูดมากว่า ขอบคุณทุกท่านครับ

จากนั้น ชัชชาติออกมาแถลงข่าวหลังเข้ารับตำแหน่งที่ศาลาว่าการกรุงเทพฯ เสาชิงช้า โดยระบุว่า มีหลายเรื่องที่เร่งด่วน มีทั้งน้ำท่วมที่ต้องเตรียมแก้ปัญหารับมือเร่วด่วนเพราะเป็นช่วงหน้าฝน เรื่องความปลอดภัยทางถนน ทางม้าลายที่ยังมีปัญหาต่อเนื่องมา เรื่องหาบเร่แผงลอย นโยบายตอนนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังเป็นเหมือนเดิม เดี๋ยวต้องหาข้อสรุปเรื่องหาบเร่แผงลอย เรื่องสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เรามีคณะทำงานแล้ว ทำมา 2-3 อาทิตย์แล้ว ก็จะทำเรื่องนี้ให้โปร่งใสและมีรายละเอียดคุยกับรัฐบาลได้มากขึ้น

งบประมาณลงทุนมีจำกัด มีไม่ถึง 100 ล้านบาท

ชัชชาติตอบว่า เพราะว่ารัฐบาลลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปเหลือแค่ 10% เงินหายไปเกือบหมื่นล้าน หลายโครงการก็ถูกตัดงบทั้งเรื่องระบายน้ำ แต่ผมเชื่อว่าตัวเลขคงไม่น้อยกว่านั้น เมื่อกี้คุยกับท่านรองปลัดฯ ก็บอกว่ายังมีเงินที่ยังไม่ได้จ่าย เดี๋ยวมาดูสุดท้ายว่าเหลือเท่าไรจริงๆ แต่ต้องเรียนว่านโยบายเราที่เสนอไป 214 ข้ออยู่บนพื้นฐานที่ว่าไม่ได้ใช้เงินเยอะเพราะเรารู้อยู่แล้วว่ามีข้อจำกัดทางงบประมาณ

จะเห็นได้ว่าเราไม่ได้มีเมกะโปรเจกต์อะไรในนี้ ก็ต้องจัดความสำคัญก่อน ทำเรื่องที่ไม่ใช้เงินก่อนเลย เช่น แอปพลิเคชั่นที่ประชาชนสามารถแจ้งเหตุได้ ไม่ใช้เงินสักบาทแต่ก็มีข้อร้องเรียนมา 20,000 กว่าเรื่องได้ ดังนั้น หลายเรื่องเทคโนโลยีไม่ต้องใช้เงิน เราไม่ได้กังวลตรงนี้นะ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า เรามีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ หลายเรื่องสามารถเดินหน้าได้โดยไม่ต้องใช้เงิน อาจจะรอดูปีงบประมาณ 2566 อีกที สรุปว่าไม่ต้องเป็นห่วงอะไร หลายเรื่องสามารถขับเคลื่อนได้ ถึงแม้ว่าไม่ต้องใช้เงิน

ส่วนการเลือกคนมาทำงาน เน้นที่ความซื่อสัตย์ โปร่งใส สุจริต ไว้วางใจได้ มีความรู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่หลากหลาย มีกลุ่มทางเทคนิคราว 40 ท่านที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นกลุ่มที่ให้คำปรึกษา มีสามกลุ่ม กลุ่มรองผู้ว่าฯ-เลขา กลุ่มที่ปรึกษาทางการเมือง และกลุ่มทางเทคนิค

ส่วนการจัดลำดับเวลาในการทำงาน เรื่องนายกฯ ไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้โฟกัสเรื่องของเราก่อน มีหลายเรื่องที่ต้องทำ ทำไป วันธรรมดา ลุยงานที่ กทม. ผลักดันนโยบาย 214 ข้อ เสาร์ อาทิตย์ ลงหน้างาน ติดตามงานความล่าช้า ตามความเหมาะสม

• งบลงทุน กทม. ปี 2565 จาก 1.4 หมื่นล้านบาท เหลือให้ผู้ว่าฯ ชัชชาติใช้ 94 ล้านบาท
• กรุงเทพติด Top 5 เมือง Work-Life Balance พัง: OT เก่ง – วันลาขั้นต่ำน้อยสุด – เมืองปลอดภัยรั้งท้าย

ที่มา – ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา