ในที่สุด McDonald ก็กำลังจะตกเป็นของคนรัสเซียแต่โดยดี หลังจากร่วมแบนรัสเซียตอบโต้ที่บุกยูเครนจนแบกต้นทุนเองไม่ไหวต้องประกาศขาย ล่าสุดขายให้กับนักธุรกิจชาวรัสเซียแล้ว Alexander Govor เป็นผู้ครอบครองดีลนี้ไปและเตรียมตั้งชื่อใหม่ด้วย
ต้นทุนที่แมคโดนัลด์ต้องแบกรับหลังประกาศยุติการทำธุรกิจในรัสเซียโต้ตอบที่บุกยูเครนคือ 55 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน (1.8 พันล้านบาท) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้มีการประกาศขายร้านและจะออกจากรัสเซีย ทั้งนี้ก็เพราะเหตุผลทางมนุษยธรรมล้วนๆ ที่ทำให้แมคโดนัลด์ไม่อาจทนอยู่ในรัสเซียได้ต่อไป
ล่าสุด Gover ผู้ประกอบธุรกิจร้านแมคโดนัลด์ 25 แห่งในไซบีเรียได้ทำความตกลงที่จะซื้อแบรนด์แมคโดนัลด์ที่มีอยู่ 850 แห่งในรัสเซียและจะทำธุรกิจต่อในอีกชื่อหนึ่ง อย่างไรก็ดี แมคโดนัลด์ในรัสเซียสร้างรายได้ต่อปีประมาณ 9% ของยอดขายทั้งหมดหรือประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 6.89 หมื่นล้านบาท ซึ่ง Gover เองก็ได้ใบอนุญาตขายแบรนด์แมคโดนัลด์มาตั้งแต่ปี 2015 แล้ว นอกจากนี้ เขายังยินยอมที่จะจ้างพนักงานแมคโดนัลด์ต่อไปอีกราว 6.2 หมื่นคนอย่างน้อยสองปีและจะจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานบริษัทแมคโดนัลด์เท่าเดิมจนกว่าสัญญาซื้อขายจะเสร็จสิ้น
Gover ไม่เพียงเป็นนักธุรกิจที่ทำมาค้าขายกับแมคโดนัลด์มานานแต่ยังเป็นเจ้าของร่วมของโรงกลั่นน้ำมัน Neftekhimservis ในไซบีเรียและยังเป็นสมาชิกคณะกรรมการของบริษัทอื่นในไซบีเรียด้วย อาทิ โรงแรม Novokuznetsk’s Park และ คลินิกเอกชน
แมคโดนัลด์ถือเป็นแบรนด์แรกของโลกตะวันตกที่เข้ามาทำมาค้าขายในรัสเซียในทศวรรษ 1990 ซึ่งแมคโดนัลด์เองก็ไม่ได้สู้แบกรับต้นทุนอยู่ลำพัง ยังมีแบรนด์ Starbucks อีก ที่ทำธุรกิจในรัสเซียราว 130 แห่งและได้หยุดดำเนินกิจการไปตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงจ่ายเงินค่าแรงให้พนักงานชาวรัสเซียอีก 2,000 คนต่อไป
ที่มา – The Guardian
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา