จุดจบสายหาร? Netflix ลองฟีเจอร์ ‘บัญชีย่อยสำหรับคนนอกครอบครัว’ ให้หารกับเพื่อนได้ แต่จ่ายแพงขึ้น หลังยอด Subscription โตช้าสุดในรอบ 8 ปี
หลายๆ คนคงใช้บริการ Netflix ด้วยการหารแพคเกจ Standard หรือ Premium กับเพื่อน เพราะ 1 บัญชี สามารถใช้ร่วมกันได้หลายคน และแม้จะมีการระบุเอาไว้ว่าบัญชีหนึ่งสามารถใช้ร่วมกันเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้น แต่ที่ผ่านมา Netflix ไม่เคยออกมาจัดการเรื่องนี้จริงๆ จัง
แถมตัว CEO ของบริษัทอย่าง Reed Hastings เองก็เคยออกมาบอกว่าการแชร์บัญชีกับเพื่อนเป็นเรื่องโอเค
แต่ล่าสุด Netflix จะทดลองฟีเจอร์ใหม่ ให้เจ้าของบัญชีสามารถเพิ่มผู้ใช้งานร่วมที่ไม่ได้อยู่ในครอบครัวสูงสุด 2 คน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจำนวนหนึ่งที่ค่อนข้างถูกกว่าสมัครบัญชีใหม่พอสมควร โดยจะเริ่มทดลองในประเทศเปรู คอสตาริกา และชิลี ในช่วงสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้เปิดเผยออกมาว่าจะปล่อยฟีเจอร์นี้ออกมาให้ผู้ใช้บริการในประเทศอื่นๆ ใช้หรือไม่
หารได้ แต่จ่ายแพงขึ้น
สำหรับเรื่องของค่าบริการ ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมต่อคนอยู่ที่ประมาณ 18-23% ของค่าสมาชิกเต็มจำนวน แล้วแต่แพคเกจที่สมัครและประเทศที่อยู่ อย่างในคอสตาริกา ค่าสมาชิกแบบ Standard อยู่ที่ 12.99 ดอลลาร์ หรือ 100 บาท โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่อคนอยู่ที่ 2.99 ดอลลาร์ เป็นต้น
พูดง่ายๆ คือประหยัดกว่าจ่ายเต็ม แต่ก็ต้องจ่ายมากกว่าการหารกับเพื่อนแบบเก่าอยู่ดี
ทั้งนี้ ผู้ใช้บัญชีร่วมจะมีโปรไฟล์แยกต่างหากเป็นของตัวเองเหมือนการหาร Netflix แบบปกติ แต่สิ่งที่พิเศษก็คือจะมีชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านแยกต่างหากเป็นของตัวเอง และหากผู้ใช้งานร่วมต้องการไปสมัครบัญชีเป็นของตัวเองในอนาคต ประวัติการรับชมต่างๆ ก็จะถูกย้ายไปยังบัญชีใหม่
- เอเชีย ฐานที่มั่นใหม่ของ Netflix ลงทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์ฯ ศักยภาพผู้ใช้งานเติบโตสูง
- Netflix ลงทุนสร้างเกมมือถือ ควบคู่สตรีมมิ่ง
Netflix โตช้าสุดในรอบ 8 ปี
คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไม Netflix เพิ่งจะหันมาทดลองฟีเจอร์นี้ ทั้งๆ ที่การหาร Netflix กับเพื่อนเป็นอะไรที่เกิดขึ้นมานานแล้ว?
หนึ่งในเหตุผลก็อาจจะเป็นการที่ยอด Subscription ของ Netflix ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 เติบโตเพียง 8.3 ล้านบัญชี เติบโตช้าสุดนับจากปี 2015 หรือกว่า 8 ปีที่แล้วเลยทีเดียว
นอกจากนี้ 2-3 ปีที่ผ่านมา Netflix มองการแชร์บัญชีกับคนนอกครอบครัวว่าเป็นเหมือนการให้คนที่ไม่เคยใช้ได้เข้ามาลองว่าคอนเทนต์ของ Netflix นั้นน่าดูแค่ไหน แต่ช่วงหลังๆ Netflix อยู่ในจุดที่ต้ิองพิสูจน์ตัวเองน้อยกว่าเก่าเพราะคอนเทนต์หลายๆ อย่างก็เป็นคนเทนต์ที่ดังเป็นพลุแตก เช่น Stranger Things หรือ Squid Game เป็นต้น
ที่มา – TechCrunch, Business Insider
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา