เมื่อจีนแพ้ไต้หวันเสียเอง! ล่าสุด Tencent โดน TSMC ปาดหน้า คว้าตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในเอเชีย ด้วย Market Cap กว่า 6 แสนล้านเหรียญ
บริษัทใหญ่จากไต้หวันมูลค่าแซงจีน
“TSMC กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเอเชียเรียบร้อยแล้ว”
และสิ่งที่ทำให้ประเด็นนี้ร้อนแรงขึ้นไปอีกคือการที่ผู้ผลิตชิปสัญชาติไต้หวันรายนี้ ขึ้นแท่นเบอร์ 1 แห่งเอเชีย ด้วยการแซงหน้าบริษัทเทคโนโลยีจากจีนอย่าง Tencent Holding ที่เป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีชั้นนำจากจีน
The Wall Street Journal รายงานว่าล่าสุด มูลค่าตลาด (Market Capitalization) ของ TSMC เติบโตทะลุ 6 แสนล้านเหรียญ (ประมาณ 19.8 ล้านล้านบาท) เข้าไปแล้ว จากข้อมูลของ S&P Global Market Intelligence ส่วนมูลค่าตลาดของ Tencent อยู่ที่ 5.69 แสนล้านเหรียญ (18.7 ล้านล้านบาท)
ตอนนี้ TSMC คือบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก ถ้าจะพูดให้เห็นภาพชัดๆ ก็คือตามหลังบริษัท Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett ด้วยช่องว่างไม่มากนัก
บริษัทจีนโดนคุมเข้มหนัก
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Tencent อันดับร่วง คือการที่รัฐบาลจีนแผ่ขยายบทบาทควบคุมบริษัทเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน ตั้งแต่ปลายปี 2020 เมื่อรัฐบาลประกาศให้การ IPO ในตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงของ Alibaba ไม่ผ่านเงื่อนไขด้านการกำกับดูแลบางประการ
ไล่ไปจนถึงการคุมเข้มบริษัทอื่นๆ ทั้ง Tencent, Didi, TikTok และยังมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ในธุรกิจสอนพิเศษ และวิพากษ์วิจารณ์ธุรกิจเกม
ประเด็นคือ เรื่องราวของบริษัทในจีนสวนทางกับไต้หวันพอสมควร เพราะในปีที่ผ่านมา TSMC ได้กำไรทุบสถิติที่ 2.15 หมื่นล้านเหรียญ (7 แสนล้านบาท) จากหลายๆ ปัจจัย ทั้งชิปขาดตลาด สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี
เทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ 2 ปัจจัยหนุน ของ TSMC
ในภาวะที่ชิปกลายเป็นที่ต้องการมากกว่าครั้งไหนๆ TSMC ได้ประโยชน์จากตรงนี้เต็มๆ โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่า TSMC มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เหนือกว่าคู่แข่งทั้ง Intel ไปจนถึง Samsung มีส่วนแบ่งการผลิตชิปที่ทันสมัยที่สุดกว่า 90% แถมยังรับผลิตสินค้าให้กับ Nvidia และ AMD อีกด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมนักวิเคราะห์จะมองว่า TSMC จะมีมูลค่าบริษัทเติบโตทำจุดสูงสุดใหม่ได้เรื่อยๆ หลังจากนี้ แถมช่องว่างด้านเทคโนโลยีระหว่าง TSMC อาจถูกฉีกห่างออกเรื่อยๆ
อีกเรื่องคือ สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยีของจีนและสหรัฐฯ ที่ยังคุกรุ่นทำให้ TSMC ได้เปรียบในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการที่สหรัฐฯ จับตาบริษัทเทคโนโลยีของจีน การห้ามการลงทุน หรือการกดดันให้บริษัทสหรัฐฯ ขายสินค้าเทคโนโลยีให้จีน
นอกจากนี้ นโยบาย Buy American ที่สนับสนุนสายพานการผลิตของประเทศพันธมิตร และโดดเดี่ยวจีนก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไม TSMC รุ่ง Tencent ร่วง ในปีที่ผ่านมา
ที่มา – WSJ, Taiwan News
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา