หลังจากที่ ครม. เห็นชอบแผนจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 จาก AstraZeneca สำหรับปี 2565 จำนวน 60 ล้านโดส โดยให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับปี 2565 โดยเห็นชอบลงนามในสัญญาซื้อระหว่างกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และบริษัท AstraZeneca และอนุมัติให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้มีอำนาจลงนามในสัญญาดังกล่าว
จากเว็บไซต์รัฐบาลไทย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า มีแผนการส่งมอบวัคซีน AstraZeneca ในปี 2565 ภายในไตรมาสแรกจำนวน 15 ล้านโดส ไตรมาสที่สอง จำนวน 30 ล้านโดส และไตรมาสที่สาม จำนวน 15 ล้านโดส
ล่าสุด บริษัทแอสตร้าเซเนก้าและรัฐบาลไทยได้ร่วมลงนามในสัญญาการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มอีก 60 ล้านโดสแล้ว ตามข้อตกลงในสัญญาฉบับดังกล่าว แอสตร้าเซเนก้าจะทำการจัดหาวัคซีนจำนวน 60 ล้านโดสให้แก่รัฐบาลไทยภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 เพิ่มเติมจากข้อตกลงการจัดซื้อวัคซีนจำนวน 61 ล้านโดสซึ่งจะทยอยส่งมอบภายในปี 2564 โดยปีนี้ แอสตร้าเซเนก้าส่งมอบวัคซีนรวมแล้วทั้งสิ้นจำนวน 24.6 ล้านโดส รวมยอดวัคซีนที่ส่งมอบวัคซีนในเดือนกันยายนจำนวน 8 ล้านโดสแล้ว
ภายใต้สัญญาฉบับใหม่นี้ รัฐบาลไทยเลือกเปลี่ยนวัคซีนรุ่นเดิมของแอสตร้าเซเนก้าเป็นวัคซีนรุ่นใหม่ AZD2816 จะต้องผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อ.ย.) ของไทยต่อไป ขณะนี้วัคซีนรุ่นใหม่นี้กำลังอยู่ในระหว่างการวิจัยเฟส 2 และ 3 คาดว่าวัคซีนรุ่นใหม่จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงสายพันธุ์หลักได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แอสตร้าเซเนก้าและพันธมิตรผู้ผลิตได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 กว่า 1.3 พันล้านโดสแก่ประเทศต่างๆ กว่า 170 ประเทศทั่วโลก 2 ใน 3 ของจำนวนวัคซีนดังกล่าวได้ถูกส่งมอบให้กลุ่มประเทศที่รายได้ต่ำและกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางค่อนไปทางต่ำ
ที่มา – รัฐบาลไทย, AstraZeneca
ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา