วัคซีนป้องกันโควิด “AstraZeneca” ที่รัฐบาลไทยเตรียมจัดซื้อ มีประสิทธิภาพ 70%

บทความโดย Rachata Sanit

Vaccine
Vaccine Photo: Shutterstock

หลังจากที่รัฐบาลไทยประกาศว่าได้อนุมัติวงเงินกว่า 6 พันล้านบาทเพื่อเตรียมจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กับบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และ AstraZeneca UK จำกัด

ล่าสุด AstraZeneca ยักษ์ใหญ่ด้านเภสัชกรรมของอังกฤษที่ร่วมมือกับ Oxford เปิดเผยว่าผลการทดลองวัคซีนในเฟส 3 ปรากฏว่า วัคซีนป้องกันโควิดของพวกเขาสามารถป้องกันไวรัสได้ถึง 70.4% โดยเฉลี่ยจากการทดลองวัคซีนผ่านวิธีการให้วัคซีนสองแบบ ดังนี้

  1. การฉีดวัคซีนครึ่งโดสแล้วฉีดตามอีก 1 โดสหลังจากฉีดครั้งแรก 1 เดือน ซึ่งให้ผล 90%
  2. การฉีดวัคซีน 1 โดสแล้วฉีดตามอีก 1 โดสหลังจากฉีดครั้งแรก 1 เดือนซึ่งให้ผล 62%

อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบวัคซีนของ AstraZeneca กับวัคซีนของค่ายอื่นที่รายงานผลการทดลองวัคซีนออกมาก่อนหน้านี้ พบว่า วัคซีนของ AstraZeneca ให้ผลลัพธ์ที่เป็นรอง โดยวัคซีนของค่าย Pfizer และ BioNTech มีประสิทธิภาพถึง 95% ในขณะที่วัคซีนจาก Moderna มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดได้ 94.5%

แต่ข้อดีของวัคซีนของ AstraZeneca คือความได้เปรียบในการบริหารจัดการขนส่ง เพราะสามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ไม่จำเป็นต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำถึง -70 องศาเซลเซียสเหมือนกับวัคซีนของ Pfizer 

อ้างอิง – CNBC, Oxford

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา